ปชป.ระดมสมอง เสนอ4ข้อแก้วิกฤติ เสื้อแดงออกโรง ปัดมี อภิสิทธิ์ รับของบริจาค

ปชป.ระดมสมอง เสนอ4ข้อแก้วิกฤติ เสื้อแดงออกโรง ปัดมี อภิสิทธิ์ รับของบริจาค


ปชป.ระดมสมองเสนอมาตรการกู้วิกฤติน้ำท่วม แนะเร่งระบายลงด้านตะวันออกภายใน 5-7 วัน ก่อนกทม.จมบาดาล "มาร์ค" เตือนหยุดเล่นการเมืองเร่งช่วยประชาชนก่อน พร้อมจี้จัดการแก้ปัญหาเรื่องสินค้าอุปโภค บริโภคที่ขาดตลาด "เต้น" แจงเสื้อแดงไม่มีอภิสิทธิ์รับของบริจาคมากกว่าคนอื่น แขวะ “ฉลอง เรี่ยวแรง” ไม่รู้ถึงจิตวิญญาณคนเสื้อแดงอย่าพูดดีกว่า พร้อมป้อง “เจ๋ง ดอกจิก” ไม่ได้กร่าง แค่เข้าใจไม่ตรงกัน

เสนอ 4 มาตรการกู้น้ำท่วม
   
เมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่พรรคประชาธิปัตย์ มีการประชุม ครม.เงา เพื่อหารือข้อเสนอการแก้ปัญหาสถานการณ์อุทกภัยต่อรัฐบาล ภายหลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค แถลงว่า สิ่งที่พรรคอยากเสนอ 4 แนวทางต่อรัฐบาล คือ 1. การจัดการน้ำพบว่าไม่สอดคล้องกับหลักวิชาและหลักปฏิบัติที่ทำกันมา การเปิดปั๊มและประตูระบายน้ำสู่ตะวันออกแทบไม่ได้ใช้ และยังทำไม่เต็มที่ ทำให้ภาระในการระบายน้ำมากองอยู่ที่แม่น้ำเจ้าพระยาจนระดับน้ำสูงเป็น ประวัติการณ์ถือเป็นความเสี่ยงมาก
   
ส่วนที่กรมชลฯชี้แจงว่าไม่สามารถระบายน้ำลงทะเลได้ทางตะวันออก เพราะระดับน้ำในแม่น้ำบางปะกงสูงกว่า ไม่สามารถเปิดประตูได้เพราะน้ำจะไหลย้อนกลับ กทม.นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จากการสอบถามผู้เชี่ยวชาญไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้น สิ่งหนึ่งที่เป็นตัวบ่งบอกได้ คือที่คลอง 2 เพราะหลังจากเปิดการระบายน้ำในคลอง  2 ทำให้ระดับน้ำในคลอง 2 ลดลงค่อนข้างเร็ว

แนะระบายไปทางตะวันออก
   
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า หากการระบายน้ำไม่สมดุลอย่างนี้ ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นนอกจากจะท่วมขังส่วนกลางเป็นเวลานาน จะเกิดปัญหาการเป็นอัมพาตของระบบบริหารจัดการทั้งหมด ลองนึกภาพว่าถ้าราชการส่วนกลางไม่สามารถทำงานได้ ขาดสาธารณูปโภคพื้นฐาน น้ำประปา ไฟฟ้า ศูนย์บริหารจัดการภัยพิบัติที่มีหน้าที่ดูแลประชาชนทั่วประเทศทำงานไม่ได้ ประชาชนจะเดือดร้อนหนักหนาสาหัสมาก จึงอยากให้รัฐบาลทบทวนการระบายน้ำลงทะเลอย่างสมดุล ผ่านทั้ง 3 ช่องทาง โดยเฉพาะการระบายผ่านทางตะวันออกให้มากขึ้น ตั้งแต่คลอง 6-21 เปิดปั๊มน้ำของกรมชลประทาน ระบายน้ำผ่านคลองประเวศบุรีรมย์ คลองหกวา และคลองอื่น ๆ
   
“ถ้ารัฐบาลมีเหตุผลว่าไม่ทำเรื่องนี้ หรือไม่ประสงค์ระบายน้ำไปทางตะวันออก ก็ควรอธิบายให้ประชาชนรับทราบอย่างโปร่งใส ว่าเป็นนโยบายรัฐบาลโดยมีเหตุผลรองรับว่าต้องการรักษาพื้นที่ไหนเป็นพิเศษ หรือไม่ นี่คือการบริหารจัดการที่ต้องการคำตอบอย่างเร่งด่วน เพราะมีเวลาไม่มากแล้ว ใน 5-7 วันนี้จะวิกฤติมาก และในการบริหารจัดการใด รัฐบาลต้องให้ความจริงกับประชาชนเพื่อเตรียมการรับมือ” นายอภิสิทธิ์กล่าว

กระจายสินค้าให้ครอบคลุม
   
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้การเสริมแนวคันกั้นน้ำตามพระราชดำริก็ควรทำ หรือถ้ากังวลเปิดน้ำแล้วระบายลงทะเลไม่ได้ก็ควรเพิ่มช่องทางระบายน้ำ เข้าใจว่าคนที่เข้าไปทำงานใน ศปภ.ได้นำเสนอการระบายไปทางตะวันออกมาพักหนึ่งแล้ว แต่เข้าใจว่าที่ไม่ดำเนินการเป็นเหตุผลทางปฏิบัติ ทางเทคนิค หรือ เหตุผลทางการเมือง วันนี้นายกฯใช้อำนาจตามมาตรา 31 ของ พ.ร.บ.ป้องกันสาธารณภัยดำเนินการได้ทันที และคิดว่านายกฯ และสื่อมวลชนควรลงไปดูในพื้นที่ตะวันออกว่าเป็นเพราะเหตุผลด้านใดกันแน่ ถ้าเห็นว่าทำได้ก็สั่งการและให้มีระบบการติดตามดูแล แต่ถ้าจะไม่ระบายก็ต้องมีคำอธิบายว่าทำไม แต่สิ่งที่เราไม่ต้องการเห็นคือการเมือง และการทำให้เกิดความแตกแยกระหว่าง คน กทม.กับคนต่างจังหวัด
   
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า 2. รัฐบาลควรทำงานใกล้ชิดกับภาคเอกชนในการดูแลปัญหาที่สืบเนื่องจากน้ำท่วม โดยเฉพาะภาวะขาดแคลนสินค้า สินค้าราคาแพง โดยในการประเมินข้อมูลความเพียงพอของสินค้า และการกระจาย ไม่ควรหวังพึ่งจุดเดียวที่รัฐบาลพูดคือสนามบินดอนเมือง เพราะถ้าจุดดังกล่าวประสบปัญหาจะมีปัญหามากยิ่งขึ้น ระบบการกระจายสินค้าควรมีหลายส่วน นอกจากนี้ควรให้ความสำคัญสินค้าจำเป็นพื้นฐานอุปโภคบริโภค และการดูแลพลังงานให้เพียงพอ 3. ในด้านสังคม ขณะนี้ปัญหาอาชญากรรมเพิ่มขึ้นมาก การจัดระบบในส่วนตำรวจ ต้องวางระบบรองรับปัญหาที่เกิดขึ้น และ 4. รัฐบาลต้องเตรียมพร้อมโครงการฟื้นฟู และมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ

หยุดเล่นการเมืองกันก่อน
   
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงข้อครหาการบริหารจัดการของบริจาคของ ศปภ.ที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยและเครือข่ายเสื้อแดงใช้อภิสิทธิ์เบิกจ่ายของบริจาคว่า ถ้ารัฐบาลถอดเรื่องการเมืองออกให้หมดเรื่องจะง่ายขึ้น วันนี้ไม่เฉพาะคนนอกแต่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยก็บ่น กลายเป็นว่าคนกลุ่มหนึ่งสามารถจะยึดครองอำนาจตรงนี้ได้ ซึ่งไม่เป็นผลดี ตนคิดว่าประชาชนอยากบริจาคอยู่แล้วถ้ามีช่องทางหลากหลายยิ่งดี แต่ถ้าช่องทางหลักมีปัญหาจะส่งผลกระทบเรื่องความน่าเชื่อถือที่จะเข้ามาบริ จาค และเรื่องนี้คิดว่าถ้านายกฯได้อ่านหนังสือพิมพ์ก็คงทราบดี
   
นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า ในส่วนของพรรคขณะนี้ได้ลงพื้นที่ช่วยประชาชนเรื่องถุงยังชีพร่วมกับภาค ประชาชนผ่านเครือข่ายอาสาคนไทยช่วยน้ำท่วม มีการเปิดโรงครัวในหลายจังหวัด ที่จะทำเพิ่มคือ 1.โครงการน้ำดื่ม “น้ำล้านขวด ล้านน้ำใจ ช่วยภัยน้ำท่วม” เริ่มต้นแล้วโดยระดมน้ำจากพื้นที่ต่าง ๆ ที่พอมีเหลือไปกระจายช่วยตามศูนย์พักพิง ศูนย์อพยพ และพื้นที่ขาดน้ำดื่ม 2.ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ตั้งศูนย์พักพิงอีก 1 แห่งซึ่งจะเปิดในวันที่ 27 ต.ค. และ 3.มีสมาชิกพรรคจากภาคใต้จะเข้ามาเปิดโรงครัวใน กทม.

จวกเล่นการเมืองจนจีดีพีลด
   
นายจุติ ไกรฤกษ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตอนน้ำยังไม่เข้ากรุงเทพฯ สินค้าอุปโภคบริโภคและน้ำดื่ม ได้หมดจากชั้นวางในร้านสะดวกซื้อแล้ว ในทางเศรษฐกิจนี่คือดัชนีแสดงความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล และการออกมาพูดเรื่องน้ำจะไม่ไหลไฟฟ้าจะดับทั้งเมือง เท่ากับกำลังประกาศว่าไม่สามารถทำงานได้เลย แต่นายกฯก็ไม่ยอมประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ดังนั้นในสุดสัปดาห์นี้ไม่ว่าน้ำจะท่วมหรือไม่ท่วมกรุงเทพฯ ความเสียหายได้เกิดขึ้นไปแล้วกับภาคธุรกิจและการเงิน
   
“ผมไม่แปลกใจที่สำนักข่าวต่างประเทศจะนำเรื่องน้ำท่วมปีนี้มาเทียบกับ เหตุการณ์เสื้อแดงสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ แทนที่จะเทียบกับผลกระทบน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้วเพราะควรจะมองว่าอุทกภัยเช่น กัน ปัจจัยผลกระทบทางเศรษฐกิจก็น่าจะไปทางเดียวกัน แต่เพราะทุกคนเขามองออกว่ารัฐบาลนี้เล่นการเมืองกับเรื่องน้ำท่วมจนสุดท้าย จีดีพีจะลดลงต่ำกว่าร้อยละ 3 จากเดิมวางไว้ร้อยละ 4 ขณะที่เมื่อครั้งเหตุการณ์เสื้อแดงรัฐบาลขณะนั้นสามารถประคองความเชื่อมั่น จนจีดีพีอยู่ที่ 7.8 ได้ เพราะนักลงทุนยังเชื่อมั่น ถ้ายังต้องมีนายกฯคนนี้ต่อไป ก็อยากให้นายกฯมีความชัดเจน เลิกอ่านตามสคริปต์ และบอกความจริงกับประชาชน” นายจุติกล่าว

“เต้น”แจงเสื้อแดงไม่มีอภิสิทธิ์
   
วันเดียวกันที่ ศปภ. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.กล่าวถึงกรณีที่นายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ระบุถึงปัญหาการกระจายของบริจาคของ ศปภ.ที่เน้นมอบให้กับ ส.ส.เสื้อแดง ว่า นายฉลองกลับมาลง ส.ส.ในนามพรรคหลังเหตุการณ์ต่อสู้ต่าง ๆ ได้ผ่านพ้นไปแล้ว อาจทำให้นายฉลองไม่เข้าใจจิตวิญญาณของคนเสื้อแดง ตนยืนยันว่าคนเสื้อแดงไม่มีการใช้สิทธิพิเศษใด ๆ ในการรับของบริจาคจาก ศปภ. พูดตามความจริงคนเสื้อแดงจำนวนมากหลั่งไหลมาจากทั่วสารทิศนำของมาบริจาคทั้ง ในรูปของสิ่งของและเม็ดเงินจำนวนมหาศาล รวมไปถึงลงแรงช่วยในรูปของอาสาสมัคร โดยในวันที่ 29 ต.ค. คนเสื้อแดงจัดงานใหญ่เพื่อระดมเงินบริจาคอีกครั้ง
   
นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นภารกิจของคนทั้งประเทศ กลุ่มเสื้อแดงก็มาเป็นอาสาสมัครตั้งแต่เริ่มต้น เป็นการทำงานด้วยจิตอาสาไม่มีอภิสิทธิ์พิเศษใด ๆ จึงไม่เป็นความจริงว่าถ้าเป็นคนเสื้อแดงจะเบิกของบริจาคได้มาก และจะมอบให้เฉพาะคนเสื้อแดงเท่านั้น ไม่มีใครคิดเบียดบังหรือสร้างอิทธิพลบารมีบนความทุกข์ของประชาชน ขอให้สบายใจได้

ของบริจาคไม่ได้ติดชื่อ ส.ส.
   
“สิ่งที่พูดไม่ตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เวลาเบิกก็เอาไปบริจาคให้ผู้ประสบภัยทั้งหมด เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาไปให้เฉพาะคนเสื้อแดง ส่วนรถขนของบริจาคก็เป็นรถบรรทุกของพรรคพวกที่เคยร่วมต่อสู้ด้วยกันมา พวกผมเป็นคนจ่ายค่าน้ำมันซึ่งจะมีรถบรรทุกจอดอยู่ที่ ศปภ. 1-2 คัน เพื่ออำนวยความสะดวกเวลานำของไปแจกจ่าย เพราะเราเข้าใจว่าทาง ศปภ.เองก็มีข้อจำกัดในเรื่องของยานพาหนะเราจึงไปหากันมาเอง อย่าว่าแต่ขอบริจาคเลยแม้แต่ชีวิตคนเสื้อแดงก็มอบให้ประเทศนี้ได้ เรื่องอย่างนี้ควรดูข้อเท็จจริงก่อนออกมาพูด ถ้าไม่รู้จักคนเสื้อแดงก็อย่าพูดเลยดีกว่า” นายณัฐวุฒิกล่าว
   
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการนำเอาของบริจาคไปติดชื่อ ส.ส. ของพรรคเพื่อไทย เพื่อประโยชน์ในการหาเสียงจะชี้แจงอย่างไร นายณัฐวุฒิกล่าวว่า กรณีที่แปะชื่อนายวรชัย เหมะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จ.สมุทรปราการ ตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นการเตรียมนำน้ำขึ้นรถเพื่อแจกประชาชน ในระหว่างรอรถก็ต้องเขียนชื่อแปะไว้ เพราะคนจำนวนมากต้องการสิ่งของเหมือนกัน ส่วนที่เขียนชื่อนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ก็เป็นของที่รับบริจาคจากคนเสื้อแดงที่ต้องการบริจาคผ่านแกนนำ นปช. ไปถึง ศปภ. ไม่มีใครคิดจะเบียดบังทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ส่วนตัว

อุ้ม “เจ๋ง ดอกจิก” ไม่ได้เบ่ง

เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าไม่มีการแปะชื่อ ส.ส. บนของบริจาคใช่หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่มีการแปะชื่อ ถ้าพบว่ามีการไปแอบอ้างชื่อโดยเฉพาะที่เป็นแกนนำเสื้อแดงก็ต้องดำเนินการกัน ภายใน แต่เราไม่พบเพราะทุกคนอยู่ในพื้นที่ แต่ถ้าพบก็ไม่ไว้หน้า ส่วนกรณีบทบาทของนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก เลขานุการ รมช. มหาดไทย แสดงท่าทีไม่เหมาะสมในการจะนำของบริจาคไปใช้นั้น ตนสอบถามนายยศวริศแล้วไม่ได้มีเจตนาที่จะมากร่างหรือเบ่งอะไร และในภาวะเครียดอาจจะไม่เข้าใจกัน
   
เมื่อถามว่า แต่การใช้คำพูดของนายยศวริศถือว่าไม่เหมาะสมที่ระบุว่าใหญ่กว่าอธิบดีกรม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนคิดว่าข้าราชการประจำคงไม่ขวัญอ่อนขนาดนั้น และเข้าใจว่าการพูดอาจมีการหยิบยกประเด็นใดประเด็นหนึ่งขึ้นมาขยายความต่อ

เสนอ“ปู”ทหารดูแลของบริจาค
   
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พล.อ. ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ได้เรียกประชุม ผบ.เหล่าทัพ เพื่อกำหนดมาตรการในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยให้แต่ละเหล่าทัพจัดทำแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะการอพยพประชาชนในพื้นที่ กทม. หากเกิดกรณีน้ำท่วมฉุกเฉิน นอกจากนี้หารือกันระหว่าง รมว.กลาโหม และ ผบ.เหล่าทัพ ยังได้มีการพูดคุยกันถึงประเด็นปัญหาของบริจาคจากประชาชนที่นำมาบริจาคที่ ศปภ.เพราะของส่วนหนึ่งไม่ถึงมือประชาชน ซึ่งหลังการประชุมสภากลาโหมในวันที่ 27 ต.ค. พล.อ.ยุทธศักดิ์จะเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอให้ทางกองทัพเข้ามาเป็นผู้ดูแลของบริจาคทั้งหมด พร้อมกับจัดเจ้าหน้าที่มาจัดทำบัญชีของผู้ที่ได้รับสิ่งของบริจาคนี้ด้วย.



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์