‘ณัฐวุฒิ’โต้แดงเบ่งเอาของบริจาค ป้อง‘เจ๋ง’ไม่ตั้งใจกร่าง

ศปภ.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า การช่วยเหลือผู้ประสบภัยของกลุ่มคนเสื้อแดง
 
ซึ่งเป็นภารกิจของคนทั้งประเทศ กลุ่มเสื้อแดงก็มาเป็นอาสาสมัครตั้งแต่เริ่มต้น ไม่มีอภิสิทธิ์หรือสิทธิพิเศษใด ดังนั้นจึงไม่เป็นความจริงว่าถ้าเป็นคนเสื้อแดงจะเบิกของบริจาคได้มาก และจะมอบของบริจาคให้เฉพาะคนเสื้อแดงเท่านั้น แต่บางครั้งมีข้อจำกัดเรื่องยานพาหนะในการขนส่ง ตนจึงมาประสานกับผู้ประกอบการรถบรรทุกให้จัดหารถโดยเป็นผู้ออกเงินจ่ายค่าน้ำมันรถเอง ไม่มีใครคิดเบียดบังหรือสร้างอิทธิพลบารมี บนความทุกข์ของประชาชน ขอให้สบายใจได้ ดังนั้นอย่าหวั่นไหวต่อการโจมตี ถ้าตั้งใจจะเป็นอาสาสมัครช่วยผู้ประสบภัยก็ให้เดินหน้าต่อ เชื่อว่าไม่มีใครจะทำอะไรนอกลู่นอกทาง 

 นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ส่วนที่นายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง

ระบุถึงปัญหาการกระจายของบริจาคของศปภ.ที่เน้นมอบให้กับส.ส.เสื้อแดง ว่า นายฉลอง กลับมาลงส.ส.ในนามพรรคเพื่อไทยหลังเหตุการณ์ต่อสู้ต่างๆได้ผ่านพ้นไปแล้ว ซึ่งอาจทำให้นายฉลองไม่เข้าใจจิตวิญญาณของคนเสื้อแดง ตนยืนยันว่าคนเสื้อแดงไม่มีการใช้สิทธิพิเศษใดๆในการรับของบริจาคจากศปภ. โดยในวันที่ 29 ต.ค.นี้ คนเสื้อแดงจัดงานใหญ่เพื่อระดมเงินบริจาคอีกครั้ง

 ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีส.ส.พรรคเพื่อไทย ติดชื่อตัวเองที่ของสำหรับนำไปบริจาค เพื่อประโยชน์ในการหาเสียงจะชี้แจงอย่างไร

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ต้องยกตัวอย่างเป็นรายกรณี เช่น ที่แปะชื่อนายวรชัย เหมะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จ. สมุทรปราการ ซึ่งมีภาพปรากฎในเว็บไซตั้น เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า ในระหว่างที่รอขนส่งน้ำที่มีการบริจาคขึ้นรถไปนำไปแจกประชาชน ก็ต้องเขียนชื่อแปะไว้ให้เข้าใจว่าเป็นการเตรียมการขนส่ง เพราะมีคนจำนวนมากที่ต้องการสิ่งของบริจาคนำไปแจกเหมือนกัน ส่วนที่เขียนชื่อนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นของที่รับบริจาคจากคนเสื้อแดงที่ต้องการบริจาคผ่านแกนนำ นปช. ไปถึงศปภ. ซึ่งไม่มีเหตุผลที่เราจะเอาของไปแสดงว่าเป็นสิทธิ์ส่วนตัวเพื่อหาเสียง ใครคิดว่าจะเบียดบังทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ใช้ไม่ได้ และต้องประณาม แต่ถ้าเป็นจิตอาสาก็ต้องเป็นกำลังใจไม่ว่าจะเป็นเสื้อแดงหรือเสื้อสีอะไรก็ตามถ้าไม่มีใครมาอธิบายหรือปกป้องความบริสุทธิ์ใจของคนที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชน สุดท้ายก็จะท้อแท้ในการทำงาน

 ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์บทบาทของนายยศวริศ ชูกล่อม เลขานุการ รมช. มหาดไทย แสดงท่าทีไม่เหมาะสมในการจะนำของบริจาคไปใช้

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า นายยศวริศไปช่วยประชาชนอยู่ที่ อ.บางใหญ่ บางบัวทอง จ.นนทบุรี และในวันที่เกิดเหตุที่ ศปภ. ก็ต้องหาจะมาหาเรือไปช่วยประชาชนที่ต้องการอพยพ และตนก็สอบถามเรื่องนี้แล้ว ทราบว่านายยศวริศไม่ได้มีเจตนาที่จะมากร่างหรือเบ่งอะไร และในภาวะเคร่งเครียดอาจจะไม่เข้าใจกัน แต่ไม่ได้มาจากรากลึกของเจตนาไม่รู้จะเบ่งหรือกร่างเพื่ออะไร เพราะก็จมน้ำกันทั้งนั้น ซึ่งตนก็บอกไปว่าไม่ต้องสนใจให้เดินหน้าทำงานต่อ ไม่มีใครขวัญอ่อนเพียงแค่เห็นอะไรบรรทัดสองบรรทัดก็เก็บไปคิด วันนี้ทุกคนต้องเข้มแข็งและหนักแน่น ใครที่ไม่เข้าใจก็ว่าเป็นรายกรณี อย่าไปบั่นทอนคนที่เสียสละ