นายกฯปู แจงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ จะป้องกันชาวกรุงเทพฯไม่ให้น้ำท่วม

เมื่อเวลา 20.35 น.วันที่ 25 ตุลาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

กล่าวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยว่า ขณะนี้น้ำมวลน้ำจากทางเหนือ ไหลลงสู่ภาคกลางแล้ว และมวลน้ำก้อนใหญ่จากภาคกลางจะได้ไหลลงผ่านกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อลงไปสู่ทะเล ซึ่งตนได้กำกับกรุงเทพมหานคร(กทม.) และทุกกระทรวง รวมถึงทุกเหล่าทัพในการช่วยป้องกันกรุงเทพฯไม่ให้น้ำท่วมและมีผลกระทบต่อชาวกรุงเทพฯน้อยที่สุด

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า สำหรับข้อเท็จจริง มวลน้ำที่มีอยูขณะนี้ พลังของน้ำมีแนวโน้มที่จะมากเกินกว่าพนังกั้นน้ำหรือประตูน้ำที่จะรับ

ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงอย่างยิ่งที่น้ำอาจจะทะลักเข้ามาพื้นที่ชั้นใน ชั้นกลาง และชั้นนอก ในกรุงเทพฯ ส่วนพื้นที่ๆ มีความเสี่ยงที่สุด คือ แนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา และพื้นที่ตามแนวพนังกั้นน้ำต่างๆ รวมถึงพื้นที่นอกแนวกั้นน้ำ ซึ่งอาจจะมีผลกระทบที่เกิดจากน้ำท่วมหรือระดับน้ำจะสูงขึ้นเท่าใดนั้น ขึ้นอยู่ กับ 2 ประการ คือ 1. ขีดความสามารถในการบริหารจัดการครั้งนี้ เนื่องจากปัญหาต่างๆ นั้นมีหลายประการ และ 2.ความสูงของพื้นที่ที่อาจมีความสูงต่ำไม่เท่ากัน

"สำหรับแนวทางป้องกันน้ำไม่ให้ท่วมกทม. ทุกฝ่ายจะร่วมกันป้องกัน ตั้งแต่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งหมายถึงผลกระทบฝั่งธนบุรี ซึ่งขณะนี้มีน้ำเหนือจาก จ.ปทุมธานีและ จ.นนทบุรี ได้ล้นเข้ามาอ.บางกรวย จ.นนทบุรี และเขตบางพลัด กรุงเทพฯ แล้ว ซึ่งขณะนี้เรากำลังป้องกันคลองมหาสวัสดิ์ โดยการเร่งระบายน้ำ เพื่อลงแม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อระบายลงสู่อ่าวไทยให้เร็วสุด นอกจากนั้นรัฐบาลและ กทม. จะดูแลแนวพนังกั้นน้ำให้แข็งแรงทนทาน รับแรงอันมหาศาลของน้ำได้ อย่างไรก็ตามน้ำมีเกินกว่าศักยภาพของระบบที่จะรองรับได้ ดังนั้นอาจมีผลกระทบพื้นที่ ธนบุรีและจังหวัดปริมณฑล ซึ่งระดับน้ำเฉลี่ยจะสูง 0.5 เมตร"น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า สำหรับบริเวณตอนเหนือของ กทม. เราได้มีมาตรการลดความกดดันของพลังน้ำ

โดยพยายามปิดประตูระบายน้ำปากคลองปรมประชากร โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตดอนเมือง หลักสี่ สายไหม บางซื่อ บางเขน ถ.พหลโยธิน ไปถึงอนุสรณ์สถานดอนเมือง และถ.วิภาวดีรังสิต เพื่อให้ลดผลกระทบน้อยลงโดยจะเร่งระบายน้ำจากคลองรังสิต ไปคลองหกวาสายล่าง เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะเข้าใจกลางเมืองกรุงเทพฯ หรือ พื้นที่กทม.ชั้นใน เพื่อไม่ให้สร้างความเสียหายมากเกินไป ถ้าหากมาตรการนี้เป็นไปตามแผน และไม่มีความเสียหายแนวพนังกั้นน้ำเพิ่มเติม น่าจะควบคุมไม่ให้ระดับน้ำสูงเกิน 50 ซม.

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับด้านตะวันออกของกทม. บริเวณมีนบุรี หนองจอก ลาดพร้าว
 
ซึงมีคลองระพีพัฒน์ คลองหกวาสายล่างและคลองแสนแสบ รัฐบาลมีมาตรการเร่งระบายน้ำไปยังตะวันออกเพื่อลงทะเล ตามแนวคลองที่ได้มีการขุดไว้ก่อนหน้านี้ หากน้ำเข้ามาตามคลองขุดก็ไปสู่คลองแสนแสบและไหลลงทะเล อย่างรก็ตามนอกจากพื้นที่เหล่านี้อยู่ในเขตหลากน้ำ ดังนั้นระดับน้ำจะสูงกว่าบริเวณอื่น โดยจะอยูในช่วงประมาณ 1-1.5 เมตร

"สำหรับกรณีที่เลวร้ายที่สุดหากไม่สามารถป้องกันจุดใดจุดหนึ่งทั้ง 3 จุดได้ เช่น แนวเขื่อนพัง แนวพนังกั้นน้ำพัง หรือน้ำจะสูงกว่าที่คาดหมายไว้โดยจะมีระดับน้ำตั้งแต่ 10 ซม. ถึง 1.5 เมตร ในเบื้องต้นผ่านคลองและสู่แสบแสนออกทะเล ขณะที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่น้ำหลากน้ำ 1-1.5 เมตร ฉะนั้นเราจะควบคุมน้ำให้เข้าเขตกทม.น้อยที่สุด จำนวนวันน้อยที่สุด โดยการหยุดการไหลให้เร็วที่สุดโดยการใช้ระบบสูบน้ำทั้งหมดที่มีอยู่ทั้งระบบของกรมชลประทานและเรือผลักดันน้ำและ กทม.เพื่อลดการท่วมขังของน้ำในพื้นที่กทม."นายกรัฐมนตรีกล่าว

นอกจากนี้ เพื่อความไม่ประมาทได้ขอให้ ศปภ.ย้ายผู้อพยพที่ศูนย์พักพิงไปยังที่ต่างๆ บางส่วนใน กทม. และบางจังหวัดเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ได้ย้ายเครื่องอุปโภคบริโภคของบริจาคจากท่าอากาศยานดอนเมืองชั้นล่างไปยังอาคารจันทรยิ่งยง สนามกีฬาแห่งชาติศุภชลาศัย ประชาชนที่ต้องการบริจาคและเป็นอาสาสมัครไปที่ สนามกีฬาศุภชลาศัยตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป