ยิ่งลักษณ์ชี้แจงเหตุใช้ พ.ร.บ. เพราะอยากให้การทำงานรวดเร็ว
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน" ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในเวลานี้ว่า
ตอนนี้น้ำเริ่มเข้าใกล้กรุงเทพมหานครมากขึ้นแล้ว ดังนั้น รัฐบาลย้ำว่า นโยบายเรื่องการบริหารน้ำเป็นสิ่งสำคัญ ต้องเลือกให้การบริหารสถานที่สำคัญ อาทิ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ เขตพระราชฐาน โรงพยาบาล พื้นที่ทางเศรษฐกิจ เส้นทางการขนส่ง สนามบิน และแหล่งผลิตสาธารณูปโภค ซึ่งจะมีผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนเป็นส่วนใหญ่ ส่วนสถานการณ์น้ำเวลานี้ ยังมีมวลน้ำก้อนใหญ่จากทางเหนือ ซึ่งต้องเร่งระบายน้ำลงทะเลให้มากที่สุด แต่ธรรมชาติของน้ำนั้นจะไหลจากที่สูงลงที่ต่ำ ซึ่งเราหากไปปิดกั้นจะทำให้ไม่สามารถควบคุมได้ เห็นได้จากการไหลของน้ำที่ผ่านมาทำแนวพนังกั้นน้ำพังลง ซึ่งการตั้งพนังเป็นเพียงการชะลอน้ำ ไม่สามารถกั้นน้ำได้อย่างถาวร หรือบางครั้งปริมาณน้ำรวมกับน้ำจากฝนตกก็ทำให้น้ำเอ่อล้นมาในพนังกั้น สำหรับสถานการณ์ขณะนี้ถือว่าเป็นสถานการณ์หนักมีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประเทศ
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวอีกว่า การเร่งระบายน้ำและการบรรเทาต้องจัดการร่วมกัน ซึ่งมีความเกี่ยวพันหลายพื้นที่
จึงจำเป็นต้องประกาศอำนาจควบคุมและกำกับการป้องกันและบรรเทาตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 โดยนายกฯใช้อำนาจตามมาตรา 31 ซึ่ง ศปภ.ยังเป็นศูนย์กลาง แต่ทั้งนี้ เป็นไปเพื่อช่วยให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว สอดคล้อง สัมพันธ์กันอย่างสมบูรณ์ และให้ดูแลอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว สำหรับพื้นที่กทม.อยู่ทางด้านใต้ติดกับทะเล จึงจำเป็นต้องเป็นพื้นที่ทางผ่าน จึงต้องเปิดประตูระบายน้ำร่วมกันทาง กทม.ผันน้ำจากทางเหนือลงทะเลโดยเร็วที่สุด แต่ต้องคำนึงถึงระดับน้ำที่เหมาะสม ไม่สร้างความเดือดร้อน ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเหมาะกับสถานการณ์ โดยรัฐบาลมีแผนรองรับกรณีเกิดผลกระทบดังกล่าวด้วย