“ประชา”ปัดทหารขอใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

“ประชา”มั่นใจ กทม.ปลอดภัย ปัดข่าวทหารขอให้ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  เผยใช้ ตร.-ทหาร 8 หมื่นนายแก้น้ำท่วม

วันนี้  (20 ต.ค.) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ตรวจเยี่ยมความเรียบร้อยของศูนย์พักพิงชั่วคราว ภายในอาคาร 2 ท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งเปิดให้ผู้ประสบอุทกภัยได้เข้ามาพักอาศัย พล.ต.อ.ประชา กล่าวถึงการรับมือสถานการณ์น้ำในกรุงเทพมหานครว่า  ศปภ.ยังยืนยันว่ามี 7 เขต ที่เป็นจุดเสี่ยงเหมือนเดิม ยังไม่ได้เพิ่มพื้นที่ แต่ที่ต้องเตรียมเมื่อค่ำวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา เพราะมีความจำเป็นที่มีน้ำไหลบ่าท่วมมาลงคลองประปา ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายที่จะเข้าสู่ใจกลางเมืองหลวง แต่เราหยุดได้ทัน โดยเร่งสูบน้ำออกควบคู่กับการเพิ่มกำลังผลิตน้ำประปา ก็สามารถช่วยได้ และจากการบินสำรวจสถานการณ์น้ำเมื่อช่วงสายก็เห็นเป็นเวิ้งน้ำไปหมด 

เมื่อถามว่าโอกาสที่น้ำจะทะลักเข้าพื้นที่ กทม.ชั้นในมีมากน้อยแค่ไหน พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า คิดว่าคงไม่ เพราะตอนนี้น้ำเริ่มทรงตัว โดยในช่วงบ่ายวันนี้ จะหารือกับกรมชลประทานเรื่องการปล่อยน้ำจากเขื่อน 4 แห่งในตอนเหนือ คือ เขื่อนสิริกิติ์ ภูมิพล แควน้อย และป่าสักชลสิทธิ์ ถ้าปริมาณน้ำในเขื่อนยังอยู่ระดับที่ปลอดภัย ก็อาจจะลดเรื่องการระบายน้ำจากเขื่อนลง
   
พล.ต.อ.ประชา กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนอยากให้ประชาชนชาวกทม.นำรถยนต์ที่จอดไว้บนถนนกลับไป เพราะตอนนี้ยังปลอดภัย

  ส่วนที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าอาจให้น้ำไหลผ่านพื้นที่กทม.นั้น เป็นข้อตกลงที่ได้มีการหารือกับผู้ว่าฯกทม.ว่าน่าจะแบ่งเบาภาระตรงนี้บ้างเพื่อให้น้ำไหลผ่านลงไปในปริมาณที่พอดี โดยไม่ให้ชาวกทม.เดือดร้อน ซึ่งที่หารือกันไว้คือระบายลงในคลอง 3 สาย ได้แก่ คลองประเวศบุรีรมย์ คลองแสนแสบ และคลองพระโขนง โดยจะปล่อยน้ำเข้ามาเป็นจังหวะปิดเปิดสลับกันไม่ให้น้ำล้น และขณะนี้ได้มีการเปิดประตูระบายน้ำลงในคลองทั้ง 3 สายนี้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา 

ส่วนปัญหาที่มีประชาชนบางส่วนไม่เห็นด้วยกับการเปิดประตูระบายน้ำ ได้มีการทำความเข้าใจกันด้วยเหตุผล ก็ดีขึ้น
 
โดยเราได้ยังพูดคุยกับประชาชนและนักการเมืองเจ้าของพื้นที่ที่ประสบภัย ซึ่งพวกเขาก็เข้าใจ และมีวิธีแก้ไขอีกอย่างหนึ่งคือการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเฝ้าประตูระบายน้ำและเครื่องสูบน้ำ จุดละ 5 คน แต่จุดที่สำคัญ เช่น บริเวณท่อสูบน้ำที่องครักษ์ จะใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 กองร้อย โดยระดมกำลังตำรวจของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และ 2 รวมจำนวน 3 หมื่นนาย และมีกำลังทหารเข้ามาร่วมอีก 5 หมื่นนาย จึงถือว่าได้ทำงานเป็นไปตามแผน เมื่อถามถึงกรณีที่ทีมที่ปรึกษาบ้านเลขที่ 111 และ 109 ระบุในแนวทางที่คล้ายกันว่าน้ำอาจจะท่วมกทม.ชั้นใน พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า นั่นเป็นเพียงมุมมอง เมื่อถามถึงข่าวที่ว่ากองทัพเสนอให้ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ไม่มี กองทัพไม่ได้พูดเรื่องนี้ แต่ระบุว่าขอให้มีความชัดเจนว่าจะทำอะไร.