โกวิท โคม่า - รมว.กลาโหม ส่งสัญญาณเชือดพ้น ผบ.ตร.

สพรั่ง ย้ำฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล-คมช.ปล่อยข่าวปฏิวัติซ้อนป่วน ยันเป็นสุภาพบุรุษพอไม่พาดพิง ชวลิต พล่อยๆ ขณะที่ รัฐมนตรีกลาโหม มั่นใจได้ตัวมือวางระเบิดแน่ แม้สาวถึงคนบงการยาก ระบุ ตำรวจและทหารร่วมกันลงมือ ส่งสัญญาณเชือดโชว์แน่ โกวิท หนาว ชี้ช่วงวันเกิดตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.- 1 ม.ค.เหตุหายหัวตลอด

วันนี้ (5 ม.ค.) พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร

ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ยืนยันว่า กระแสข่าวการปฏิวัติซ้อนของทหาร เมื่อวานนี้ เป็นเพียงข่าวลือ ไม่เป็นความจริง และว่า ข่าวดังกล่าวที่ออกมาเป็นฝีมือของฝ่ายตรงข้าม คมช.และรัฐบาล

พล.อ.สพรั่ง ยืนยันว่า ไม่มีการควบคุมตัว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า มีการเชื่อมโยงตนกับ พล.อ.ชวลิต ทั้งที่ความเป็นจริงตนเป็นสุภาพบุรุษเสมอไม่เคยพาดพิงบุคคล เสียดสี หรือประชดใคร แต่เมื่อใดพยานหลักฐานชัดเจน จะออกมากระชากผ้า ตีแผ่ต่อสังคมให้บุคคลนั้นต้องหมดคุณค่า

กระแสข่าวปฏิวัติมีเป้าหมายเพื่อสร้างความสับสน แตกแยก โดยเชื่อว่าเป็นการสร้างกลลวงเพื่อทำจริงในตอนหลัง

ด้าน พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาล และ คมช.รู้แล้วว่า กลุ่มที่ก่อเหตุใน กทม.เป็นใคร<> โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางดำเนินการ ซึ่งส่วนตัวได้ตัดประเด็นผู้ต้องสงสัยที่เป็นพลเรือน และผู้ที่อยู่นอกประเทศไปแล้ว

เพราะฉะนั้น ผู้ที่ทำน่าจะเป็นคนในเครื่องแบบทั้งสีเขียวและสีกากี ที่เชื่อว่า มีขีดความสามารถเพียงพอ และในกลุ่มที่ทำเป็นทั้งสองสีร่วมมือกัน พล.อ.บุญรอด กล่าว

ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นคงไม่เกิดซ้ำอีก แต่การสืบสวนสอบสวนหรือการดำเนินคดีอาจจะไม่ได้สาวไปคนที่อยู่เบื้องหลังลึกๆ แต่จะต้องนำคนที่ลงมือมาลงโทษให้ได้ เพราะตอนนี้มีหลักฐานบางส่วนแล้ว และหน่วยพิสูจน์อยู่ระหว่างดำเนินการรวบรวมหลักฐานอยู่

โดยก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุมีการแจ้งเตือนให้ตำรวจ ซึ่งรับผิดชอบใน กทม.ดูแลรักษาความปลอดภัย แต่อาจจะเกิดความหละหลวม เพราะพื้นที่ กทม.กว้างมากโอกาสเล็ดลอดไปก่อเหตุมีค่อนข้างสูง ประกอบกับ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)แจ้งว่าไปตรวจเยี่ยมภาคใต้

ขณะนี้รัฐบาลต้องทำทั้งให้รางวัล และลงโทษผู้ที่รับผิดชอบในเหตุการณ์ รวมทั้งเร่งหาคนผิดมาลงโทษ รมว.กลาโหม กล่าวและว่า ในการประชุมที่กองอำนวยการรักษาความั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เมื่อวันที่ 1 ม.ค.2550 พล.อ.สุรยุทธ์ ระบุไว้ว่า หากไม่ได้รับความร่วมมืออย่างจริงจังก็จะต้องลงโทษ ซึ่งทุกหน่วยงานทำงานอย่างเต็มที่

หาคนผิดลงโทษและป้องกันเหตุโดยตั้งแต่เกิดเหตุในวันที่ 31 ธ.ค.2549 และได้มีการประชุมกันที่ กอ.รมน.ทั้งวันที่ 31 ธ.ค.2549 และ 1 ม.ค.2550 พล.ต.อ.โกวิท ไม่ได้เข้าประชุมเลย

ดูตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายส่วนชะลอ ไม่ได้วิ่งความเร็วตามสถานการณ์ นายกฯบอกว่าก็ว่ากันไป ตามกฎหมาย ถ้าบกพร่องก็ว่ากันไป พล.อ.บุญรอด กล่าว

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: ผู้จัดการออนไลน์