‘ยิ่งลักษณ์’น้ำตาคลอถูกซักรบ.ปกปิดความจริงข้อมูลเตือนภัย

ที่ ศปภ. ดอนเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์

ออกมาเตือนว่าน้ำจะท่วมกทม. ในเขตดอนเมืองและสายไหมสูงถึง 1-2 เมตร ว่า ขอไปตรวจสอบข้อมูลก่อน ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก หากมีอะไรเกิดขึ้นทาง ศปภ.จะมีการเตือนภัยอย่างเป็นทางการ โดยปรับปรุงวิธีการเตือนภัยเป็นแถลงการณ์ที่มีรายละเอียดชัดเจน เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ และไม่เกิดความสับสน รัฐบาลจะไม่อยู่ในความประมาท อยากให้ทุกคนเตรียมตัว แต่อย่าตื่นตระหนก เราจะพยายามทำหน้าที่เต็มที่ ขณะนี้ได้มีการเปิดประตูระบายน้ำตั้งแต่คลอง 1-6 ตามที่ได้ประกาศไว้หมดแล้ว ตอนนี้ก็ต้องพยายามป้องกันรักษาในส่วนของแนวคลองรังสิตทั้งหมด โดยขอร้องประชาชนว่าอย่าดึงคันกั้นน้ำหรือกระสอบทรายออก ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถควบคุมน้ำได้ 

 เมื่อถามว่าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าแนวกระสอบทรายที่ทำคันกั้นน้ำจะเอาอยู่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เราจะพยายามทำแนวกั้นเป็นระยะๆ เพื่อรองรับน้ำต่อไปเป็นชั้น ๆ แต่ต้องยอมรับว่าปัญหาเยอะจริงๆ เพราะน้ำมีจำนวนมาก ไม่ว่าจะระบายไปทางไหนก็จะมีปัญหา แต่รัฐบาลก็พยายามป้องกันให้เต็มที่  

 เมื่อถามว่า ศปภ. ซึ่งตั้งอยู่ที่ดอนเมืองเองจะรอดพ้นจากน้ำท่วมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ต้องทำให้เต็มที่ เชื่อว่ายังป้องกันได้
 
ยังไม่จำเป็นต้องย้ายศูนย์ออกไปที่อื่น แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็จะแจ้งเตือนภัยให้ทราบ อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าถ้าเราทำตามสิ่งที่ได้แจ้งให้กับประชาชนไว้ทีละขั้นก็น่าที่จะบรรเทาทุเลาลงได้ ซึ่งต้องเร่งทำในทุกส่วน เมื่อถามว่าประเมินหรือไม่ว่าน้ำจะเข้าท่วมพื้นที่กทม.ลึกและกินพื้นที่กว้างขนาดไหน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องแล้วแต่พื้นที่ จะขอแจ้งอีกครั้ง เมื่อถามย้ำว่าปริมาณน้ำที่จะเข้ากทม.จะมีจำนวนเท่าใด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอบยาก ต้องขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตอบ เพราะเรายังไม่รู้ว่าพายุลูกใหม่จะเป็นอย่างไร บางคนก็บอกไม่มา วันนี้ที่เราได้ยินมาจาก 2 แหล่ง ข้อมูลก็ยังไม่ตรงกัน จึงพยายามหาผู้ที่มีความรู้ความชำนาญเรื่องน้ำมาหารือร่วมกัน วันนี้ประเทศไทยยังไม่มีกระบวนการประมาณการที่แม่นยำตรงนี้ เพราะเป็นอุทกภัย

 เมื่อถามต่อว่าแสดงว่าข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยาไม่แม่นยำใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่มาจากหลายแหล่ง
 
“ต้องขอความกรุณาจากสื่อด้วย ถ้าถามแบบนี้ก็จะยิ่งไม่เกิดประโยชน์ ดิฉันเองเป็นผู้ที่มารับหน้าที่ในฐานะนายกฯ ประสานงานทุกหน่วยงาน ดังนั้นเราควรจะคุยกันพร้อมกับผู้ที่มีความรู้และให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ดิฉันอาจจะให้ข้อมูลกับสื่อได้ไม่ครบ เพราะเกรงว่าการให้สื่อสารในมุมที่เรามองจากความรู้สึกส่วนตัว อาจจะทำให้ประชาชนขาดความมั่นใจและไขว้เขวได้”

 เมื่อถามว่าแต่วันนี้คนไม่เชื่อมั่นในข้อมูลของ ศปภ.แล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า
 
ก็ขอน้อมรับในส่วนนี้ อย่างไรก็ตามต้องขอความเห็นใจ เพราะวันนี้ ศปภ.รวมทุกองค์กรเข้ามาทำงานร่วม ซึ่งบางครั้งจากการพูดคุยกัน มุมของความตื่นตระหนกของแต่ละคนก็อาจจะทำให้ประชาชนที่รับรู้ข่าวสารตกใจได้ ซึ่งจะนำไปปรับปรุงใหม่ หากมีการแจ้งเตือนภัยก็จะออกเป็นแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ โดยยึดข้อมูลจากที่ได้ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว

 เมื่อถามว่าการที่น้ำเข้ามาประชิดขอบกทม.แล้ว ถึงเวลาหรือยังที่รัฐบาลจะต้องพูดความจริงและแจ้งเตือนประชาชน
 
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสั่นเครือและมีน้ำตาคลอ ว่า“ต้องกราบเรียนว่าวันนี้เราพูดความจริง ไม่ได้ปิดบังพี่น้องประชาชน เราทำทุกวิถีทาง แต่ครั้งนี้เป็นวิกฤติใหญ่ของประเทศ ลำพังคนเดียวเราทำไม่ได้ เราต้องอาศัยการรวมพลังขอความร่วมมือทุกภาคส่วน และวันนี้เราต้องเอาเกมการเมืองออกไป เราต้องแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน และทำให้ขวัญและกำลังใจของคนไทยกลับคืนมา นี่เป็นสิ่งที่สำคัญ กำลังใจวันนี้คะที่ต้องการ ในการที่จะกอบกู้กำลังและต่อสู้กับน้ำ เพราะวันนี้เราไม่ได้ต่อสู้กับอย่างอื่น แต่เราต่อสู้กับอุทกภัยที่มากกว่าทุกปี และเป็นในหลาย ๆประเทศ ดังนั้นต้องใช้ความพยายามร่วมกัน ดิฉันเองเป็นเพียงกลไกหนึ่ง แต่ก็ต้องทำหน้าที่นี้ในการเชื่อมโยงกับทุกกลไก ก็ต้องขอความร่วมมือทุกส่วนด้วย”