"กิตติรัตน์" น้ำตาคลอเบ้าแจงกลางครม. รับน้ำท่วมครั้งนี้เสียหายมหาศาล จี้ครม.เคาะรับมือแผนรับมือระยะยาวและให้หลักประกันนักลงทุน แนะหากต้องกู้เงินเท่าก็ต้องทำ ระบุจีดีพีปท.ลดฮวบร้อยละ 1.7 ชัวร์ คาดทำให้ดีแค่ไหนก็ไม่เกินปีที่ผ่านมา ด้าน "ยิ่งลักษณ์" โยน"รมว.พาณิชย์ดูรับหน้าเสื่อฟื้นฟูโครงสร้างประเทศ
ที่ศปภ. ดอนเมือง วันที่ 18 ต.ค. 2554 มีรายงานข่าวจากที่ประชุมครม.แจ้งว่า การประชุมครม.
ซึ่งมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เริ่มต้นเวลา 09.40 - 14.00 น. ในช่วงต้นครม.มาประชุมกันน้อย จากนั้นก็ทยอยกันเข้าประชุมจนเต็มห้องประชุม โดยวาระแรกที่หารือคือเรื่องสถานการณ์อุทกภัย ใช้เวลาสี่สิบห้านาที และเป็นวาระพิจารณาจรที่หนึ่งเรื่องผลการหารือระหว่างนายกฯและรัฐมนตรีเป็นรายกระทรวงเกี่ยวกับการช่วยเหลือดูแลฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งนายกฯสั่งงานครม.ในเรื่องเร่งด่วนจำนวนมากรวมทั้งแผนระยะยาวในการฟื้นฟูและบูรณาการทั้งระบบ โดยให้ส่งแผนการทำงานตามสี่กลุ่มงานที่แบ่งไว้ให้กลับคืนนายกฯในช่วงเที่ยงวันที่ 21 ต.ค.
จากนั้นนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.พาณิชย์กล่าวกับที่ประชุมครม.แบบน้ำตาคลอว่า อุทกภัยส่งผลกระทบเสียหายมหาศาล ต้องเตรียมการรับมือ
แต่เดือนต.ค.แล้วฝนยังไม่หยุดตกและน้ำเยอะ หากถึงวันลอยกระทงน้ำก็ต้องเพิ่มขึ้นมากสุดในช่วงนั้น หากแผนป้องกันระยะยาวไม่ดี อีกไม่ถึงหกเดือนปัญหานี้จะกลับมาใหม่อีกแน่นอน และหากจะลงทุนหรือสร้างสิ่งใดเพื่อเรียกความเชื่อมั่นก็ต้องรีบทำ จะกู้เงินเท่าใดก็ต้องกู้ ตอนนี้ภาคอุตสาหกรรมเกิดผลกระทบ และจะกู้ความเชื่อมั่นกลับมาได้ยาก หลายโรงงานที่เจอปัญหานี้ หากน้ำลดแล้วจะทำเช่นใด เช่นจะย้ายโรงงานหรือไม่ มันต้องมีแผนที่รัฐบาลต้องชี้แจงว่าจะแก้ปัญหาระยะยาวเช่นใดบ้าง และเมื่อนายกิตติรัตน์พูดจบ นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกฯและรมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ได้สนับสนุนแนวคิดนายกิตติรัตน์ทันทีว่าควรรีบดำเนินการ
เลขาธิการสำนักงานการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า แผนระยะสั้นและระยะยาวที่ต้องดำเนินการนั้นต้องระวังด้วย เพราะไตรมาสที่สี่ของปีนี้ต้องเตรียมการ ผลกระทบจากอุทกภัยนั้นส่งผลถึงจีดีพีของประเทศในปีนี้ที่ลดลงร้อยละ 1.7 แน่นอน แม้จะบริหารจัดการให้ดีสุดเพียงใดจีดีพีของประเทศก็จะได้เทียบเท่าจีดีพีของปีที่แล้วเท่านั้น