พท.รุกดันกมธ.สภาแก้พรบ.กห.

'พท.' รุกคืบ ปรับแผนใหม่ เล็งให้ กมธ.กม.สภาฯ แก้ไข พรบ.กลาโหม ลั่นพร้อมเชิญรมว.กลาโหม-ผบ.เหล่าทัพแจง

นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการแก้ไขพรบ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 ว่า เขาจะเสนอให้คณะกรรมาธิการฯ พิจารณาแก้ไขพรบ.ดังกล่าวในสัปดาห์หน้า โดยเบื้องต้นจะศึกษาถึงผลดีผลเสียในการแก้ไขพรบ.ดังกล่าว

ทั้งนี้ ส่วนตัวแล้วเห็นด้วยกับส.ส.และนักวิชาการหลายคนว่า สมควรที่จะต้องมีการแก้ไข เพราะให้อำนาจกับทหารเยอะจนเกินไป ขัดและฝืนกับอำนาจฝ่ายบริหาร ตุลาการ และนิติบัญญัติ

          นอกจากนี้ พรบ.ดังกล่าว ยังเกิดขึ้นจากคณะรัฐประหารอีกด้วย ไม่ได้เกิดจากรากหญ้าประชาธิปไตย และไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากปวงชนชาวไทย

          นายประชา กล่าวอีกว่า แม้ว่าจะแก้ไขพรบ.ดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้ทำให้กระทรวงกลาโหมหมดความมั่นคงลง แต่จะยิ่งทำให้อยู่ในระบบระเบียบประชาธิปไตยมากขึ้น ดังนั้น ทหารไม่ควรวิตกกังวลว่า จะเป็นการเสียศักดิ์ศรีอะไร เพราะความจริงแล้วอำนาจทหารก็ล้นมืออยู่แล้ว และที่ผ่านมาก็แสดงบทบาทให้ได้เห็นอยู่หลายต่อหลายครั้ง

          อย่างไรก็ตาม หากยังมีพรบ.ดังกล่าวอยู่ รัฐบาลก็คงต้องดูถึงความเหมาะสม เพราะการจัดโผโยกย้ายนายทหารต่างๆนั้น โดยนิตินัยแล้วนายกรัฐมนตรีต้องมีส่วนเข้าไปดูและมีอำนาจในการตัดสินใจด้วย

          ทั้งนี้ หากเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯ แล้วคงจะมีการเชิญรมว.กลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม และผบ.เหล่าทัพมาให้ข้อมูลด้วย และเมื่อเสร็จสิ้นแล้วจะนำผลการศึกษาไปเสนอกับรัฐบาล นอกจากนี้ ส.ส.ก็ยังสามารถเข้าชื่อเพื่อแก้ไขพรบ.ดังกล่าวได้เช่นกัน

          ด้านนายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ขึ้นอยู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่าจะเอาอย่างไร เพราะการจะให้ผ่านกฎหมายนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจะต้องส่งไปให้วุฒิสภาพิจารณาด้วย ซึ่งไม่ทราบว่าวุฒิสภาจะเอาด้วยหรือไม่

          ทั้งนี้ ในส่วนของคณะกรรมาธิการฯ นั้น หากส.ส.เสนอให้ศึกษาถึงข้อดีและข้อเสียก็พร้อมที่จะนำมาพิจารณา โดยจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง อย่างไรก็ตาม เมื่อมีพรบ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการสามัญ สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ต้องระมัดระวังในการใช้อำนาจด้วย เพราะหากเชิญแล้วไม่มาจะต้องเตือน 1-2 ครั้งก่อนจึงจะใช้มาตรการต่อไปได้ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความปรองดอง เพราะบ้านเมืองจะเดินหน้าได้นั้นต้องยึดผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก

'มานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ' แรง ชี้ กม.โจร ต้องยกเลิก

          นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ ที่ปรึกษากฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในฐานะนักกฎหมายและเป็นที่ปรึกษาของพรรค มองว่า อยากให้ดูที่บรรทัดสุดท้ายของพรบ.ดังกล่าวว่า ใครที่เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ เพราะพรบ.ฉบับดังกล่าว ผู้ที่รับสนองพระบรมราชโองการคือพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเท่านี้ก็รู้แล้วว่า คนที่รับสนองพระบรมราชโองการ ไม่ได้มาจากประชาชน แต่มาจากคณะรัฐประหาร ถือว่า เป็นพวกกบฏ

          "พรบ.ฉบับดังกล่าว ต้องบอกว่า เป็นกฎหมายโจร เขียนมาให้โจรใช้ ซึ่งใครที่เป็นคนดี ก็ไม่ควรนำกฎหมายดังกล่าวมาใช้อีก"

          ทั้งนี้ ทางที่ดีต้องยกเลิกกฎหมายดังกล่าว แล้วกลับไปใช้กฎหมายฉบับก่อนที่คณะรัฐประหารจะยกเลิกไป หรือหากจะแก้ไขใหม่ ก็ให้ใช้กฎหมายฉบับก่อนที่คณะรัฐประหารจะยกเลิกไปนั้น เป็นต้นร่างทั้งหมด

          "วันนี้ เรามีเสียงข้างมากที่มาจากประชาชน สามารถที่จะทำได้เลย กฎหมายที่มาจากโจร เราไม่ยอมรับ เพราะเขียนขึ้นมาเพื่อลดอำนาจประชาชน ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชนเลย" นายมานิตย์ ระบุ