นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรฯเงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการทำงาน 72 วันของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในการแก้ปัญหาน้ำท่วมว่า
ที่ผ่านมาการช่วยเหลือและแก้ไขสถานการณ์เป็นไปด้วยความล่าช้า การบริหารงานไม่สอดคล้องกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น มีแต่การตั้งคณะกรรมการมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เกิดความซ้ำซ้อนกลายเป็นอุปสรรคในการสั่งการ จึงขอแนะนำให้นายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการบูรณาการเพียงชุดเดียวเพื่อให้การดูแลสถานการณ์น้ำท่วม อย่างมีเอกภาพ แก้ปัญหาได้ทันท่วงที และต้องแยกแยะพื้นที่วิกฤติให้ชัดเจน ทั้งนี้ในขณะนี้มี 3 จุด ที่สถานการณ์น่าเป็นห่วง คือ
1.ภาคอีสานซึ่งพายุลูกที่ 5 กำลังจะเข้าเขื่อน 100 % ในพื้นที่ดังกล่าวรับน้ำไม่ได้ต้องระบายออก ซึ่งจะทำให้จังหวัดใกล้เคียงถูกน้ำท่วมครั้งใหญ่แต่รัฐบาลยังไม่มีแผนรองรับ
2.พื้นที่ภาคเหนือตอนล่างวิกฤติที่สุดคือ นครสวรรค์ ซึ่งอีก 4 วัน จะจมน้ำทั้งจังหวัดแต่รัฐบาลยังไม่มีแผนรองรับการอพยพคน
3.พื้นที่ภาคกลางกำลังมีปัญหามากขึ้น โดยปลายเดือนนี้ กทม.จะเผชิญวิกฤติครั้งใหญ่
“ รัฐบาลจึงต้องแยกสามพื้นที่เพื่อเตรียมการป้องกัน แทนที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพียงอย่างเดียว จึงควรคิดวิธีแก้วิกฤติด้วยการวางแนวทางรองรับก่อนเกิดปัญหา นอกจากนี้ ภาคใต้จะได้รับอิทธิพลจากมรสุมปลายเดือนนี้ ซึ่งปีที่แล้วมีปัญหาดินถล่ม 10 จังหวัด ขณะนี้ยังไม่มีการตรวจสอบสัญญาณเตือนภัย ไม่มีการซักซ้อมแผนอพยพ หากยังคิดตามหลังปัญหาเช่นนี้ รัฐบาลคงแก้วิกฤติอุทกภัยไม่ได้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรฯเงา กล่าว
นายสาทิตย์ กล่าวว่า นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีไม่ได้มีการจัดลำดับความสำคัญในการแก้ปัญหา ซึ่งควรกำหนดการแก้วิกฤติภัยพิบัติเป็นความสำคัญลำดับแรก เลิกพูดประเด็นการเมืองที่จะสร้างความขัดแย้ง ทั้งนี้ประเมินความเสียหายจากภัยพิบัติครั้งนี้ว่าอาจสูงถึง 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะฉุดจีดีพีลง 0.6 % แต่นายกรัฐมนตรีกลับสั่งการให้ทุกหน่วยงานคงตัวเลขเศรษฐกิจตามเป้าหมายเดิม สะท้อนถึงการขาดวิสัยทัศน์ในการบริหารประเทศ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
