เฉลิมเผยชื่อ จนท.เอี่ยวค้ายาเสพติดเกือบ 1 พันราย

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่กระทรวงยุติธรรม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมการแก้ปัญหายาเสพติด แบบบูรณาการ

โดยมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ร่วมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวภายหลังการประชุมว่า นโยบายการปรามปรามยาเสพติด จะเน้นการบำบัด เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.-ธันวาคม 2554 จำนวน 1,800 ราย โดยกำหนดหลักเกณฑ์เบื้องต้นจะนำผู้เสพยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษา มี 3 แบบ คือผู้เต็มใจบำบัดรักษา กึ่งเต็มใจบำบัดรักษา และการบังคับบำบัดรักษา
 
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวอีกว่า ปัญหายาเสพติด มีนักการเมืองระดับท้องถิ่นเข้าไปเกี่ยวข้อง

และมีเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติ ที่พัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติดเกือบ 1,000 รายชื่อ แต่ข้าราชการตั้งใจปฏิบัติมีมากกว่า  และยืนยันว่าไม่มีนักการเมืองระดับชาติ ส่วนข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปพัวพัน หากถูกดำเนินคดีต้องถูกลงโทษตั้งแต่ติดคุก ให้ออก ไล่ออก ตนขอประกาศไว้เลย ใครที่ค้ายาเสพติด จะถูกจับติดคุกยึดทรัพย์สถานเดียว ที่ทำมาต้องสูญเปล่า สำหรับท้องที่ สน.วัดพระไกร ที่ไปพบเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามว่าทำไมถึงขยายผลจับรายใหญ่ไม่ได้เลย เพราะที่ผ่านมาจับแต่รายย่อย คงไม่จำเป็นต้องย้ายผู้กำกับ อยากให้ช่วยกันทำงาน

ด้าน พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์

กล่าวถึงหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกนักโทษเด็ดขาดเข้าโรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองราชทัณฑ์ จำนวน 1,800 คน ว่าจะต้องเป็นนักโทษเด็ดขาดชาย-หญิงคดียาเสพติดให้โทษ เฉพาะนักโทษชายต้องมีประวัติเสพยา ทำผิดคดีเดียวไม่มีความผิดฐานอื่นรวม ขณะถูกจับกุมมียาบ้าไม่เกิน 300 เม็ด เฮโรอีนหนักไม่เกิน 5 กรัม ฝิ่นไม่เกิน 50 กรัม กัญชาแห้ง น้ำหนักไม่เกิน 1 กรัม ต้องไม่เป็นผู้กระทำผิดรายสำคัญของ ป.ป.ส. จำโทษไม่น้อยกว่า 1 ใน 2 มีโทษเหลือจำไม่เกิน 3 ปี ไม่มีคดีอายัดหรือหมายจับของศาล ไม่อยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีทางวินัย ไม่เป็นนักโทษเด็ดขาดที่อยู่ระหว่างเรือนจำ มีผู้อุปการะซึ่งมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ซึ่งที่ผ่านมาการส่งนักโทษคดียาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษาในส่วนของราชทัณฑ์ ตั้งแต่ปี 2547-2554 มีจำนวนทั้งสิ้น 7,219 คน โดยเฉพาะในปีนี้ถือว่ามีนักโทษที่เข้าข่ายได้รับการคัดเลือกพักการลงโทษจำนวนมากที่สุด

พ.ต.อ.สุชาติกล่าวว่า สำหรับการบูรณาการกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมนั้นทาง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์

ได้เสนอทาง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้นำหลักนิติวิทยาศาสตร์มาสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดเพื่อตรวจพิสูจน์ทราบในภารกิจต่างๆ ทั้งการจัดเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 4 โครงการ คือ จัดทำฐานข้อมูลบุคคลทางนิติวิทยาศาสตร์ทั้งผู้ต้องขังคดียาเสพติด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และมีเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษด้านการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด