“โกวิท”รับทบทวนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แดนใต้

“โกวิท” แจงวุฒิฯ รับภัยใต้ยังรุนแรง พร้อมรับข้อเสนอ ทบทวน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ – ผู้รับผิดชอบทุก 3 เดือน 1 ปี หากยังมีฆ่าเผารายวันต้องเปลี่ยนคนรับผิดชอบ

เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีพล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา เป็นประธาน ได้พิจารณากระทู้ถามเรื่อง การลดความสูญเสียและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่นายเจริญ ภักดีวานิช ส.ว.พัทลุง ได้ถามนายกรัฐมนตรี ว่า รัฐบาลมีแนวทางลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินรายวันประชาชนรวมทั้งจนท.รัฐที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างไร  มีประชาชนจำนวนมากหนีภัยมาอยู่จ.สงขลาและจังหวัดอื่นแต่ไม่เงินติดตัวไม่สามารถขายทรัพย์สินที่อยู่ในพื้นที่ได้ รัฐบาลจะมีนโยบายตั้งกองทุนเยียวยารับซื้อสินทรัพย์ชั่วคราวเมื่อสถานการณ์สงบแล้วให้ไถ่ถอนคืนหรือไม่  การประกาศใช้พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 เป็นเวลานานแก้ปัญหาไม่ได้ รัฐบาลควรประเมินและทบทวนทุก 3-6  เดือน หรือครบ 1 ปีแล้วยังฆ่าเผารายวันก็จำเป็นต้องทบทวนผู้รับผิดชอบ
               

พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรีว่า 

การก่อเหตุบางครั้งรุนแรงและไม่มีมนุษยธรรม  เมื่อมารับผิดชอบงานได้หารือทั้งแม่ทัพภาคและศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอบต. )พบปัญหาปฏิบัติหลายประการ ทั้งการวางกำลังกระจัดกระจายเพราะโรงเรียน,วัดและสถานที่ศาสนากระจายจำนวนมากมีปัญหาบริหารกำลังพล  จะเพิ่มการแก้ไขรายละเอียดที่เป็นจุดอ่อนตามที่หลายฝ่ายเสนอเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประชาชนมากขึ้นโดยบูรณาการให้มีศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหา ส่วนเรื่องกองทุนรับซื้อที่ดินศอบต.แจ้งว่ามีผู้ร้องเรียนเรื่องนี้ 8 ราย แต่ไม่มีงบจึงขอรับไปพิจารณา และรับข้อเสนอการประเมินใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินและการประเมินผู้รับผิดชอบ
               

จากนั้น ที่ประชุมวุฒิสภาได้พิจารณากระทู้ถามของนายสุริยา ปันจอร์ ส.ว.สตูล

ถามนายกรัฐมนตรีเรื่องผลกระทบจากการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯว่ามีปัญหาหลายอย่าง กฎหมายให้อำนาจจนท.รัฐเกินไป ในการจับกุม คุมขัง เป็นการคุกคาม และริดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน ควรใช้กฎหมายพิเศษแทน เช่นพ.ร.บ.ความมั่นคงน่าจะแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้  ทั้งนี้ พล.อ.โกวิท   ชี้แจงว่า  จะรับข้อเสนอและไปพูดคุยจนท.ผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่าย  รวมทั้งจะลงไปเยี่ยมดูพื้นที่ควบคุม กักขัง ของฝ่ายทหารว่าชาวบ้านที่เป็นผู้ต้องขังได้รับความพึงพอใจหรือมีมาตรการที่จะต้องแก้ไข