คมช.ไม่รับประกันปฏิวัติซ้อน จัดงานวันเด็กทำเนียบตามปกติ

คมช.ไม่รับประกัน"ปฏิวัติซ้อน" จัดงานวันเด็กทำเนียบตามปกติ


พล.อ.อ.ชลิต รองประธานคมช. ยันไม่มีปฏิวัติซ้อนแต่รับประกันไม่ได้ พล.อ.บุญรอด ยืนยันข้อสรุปกลุ่มการเมืองเสียอำนาจก่อเหตุลอบวางระเบิด ยัน "สุรยุทธ์-สนธิ" ไม่เคยพาดพิง พล.อ.ชวลิตเป็นผู้ก่อเหตุ โทษสื่อโยงเอง รมว.มหาดไทยแนะให้"บิ๊กจิ๋ว"ทบทวนให้ดีก่อนออกมาแสดงความเห็นหวั่นทำให้เหตุการณ์บานปลาย หลายจังหวัดติดกล้องวงจรปิดกันบึ้มซ้ำรอย กทม.

(4ม.ค.) พล.อ.พงศ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี


กล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยในการจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ภายในทำเนียบรัฐบาลว่า จะดำเนินการตามปกติแต่ต้องเข้มข้นขึ้นตามสถานการณ์ เพราะว่าถือเป็นการให้รางวัลกับเด็ก ซึ่งเด็กหลายคนอยากจะมาดูทำเนียบฯ ซึ่งจะได้ถือโอกาสนี้เข้ามาชม

ผู้สื่อข่าวถามว่า

จะให้เด็กได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี หรือไม่ พล.อ.พงศ์เทพ กล่าวว่า เขาอยากมาเห็นอยากมาพูดคุย ซึ่งนายกรัฐมนตรีอาจจะมีภารกิจในช่วงนั้น คงต้องดูอีกครั้งว่านายกฯจะสามารถอยู่ต้อนรับเด็กๆได้หรือไม่

เมื่อถามว่าจะมีการลดกิจกรรมเพื่อให้มีความรัดกุมในการดูแลความปลอดภัยหรือไม่ พล.อ.พงศ์เทพ กล่าวว่า อยากให้เด็กได้รับเหมือนที่เคยได้รับมาเหมือนปีก่อน ซึ่ง ครม.ได้เห็นชอบให้จัดกิจกรรมเหมือนเดิม

รองประธานคมช.ไม่รับประกันมีปฏิวัติซ้อน


พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ และรองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกระแสข่าวการปฏิวัติซ้อนว่า คงไม่มี บางครั้งรับประกันไม่ได้ เพราะทหารทุกคน ทุกเหล่า มีความเข้าใจที่เหมือนกันในการแก้ไขปัญหา คมช.มีเป้าหมายตรงกันคือ ความต้องการชาติและประชาชนไปในทางทิศเดียวกัน

"ขอให้ย้อนกลับไปก่อนเดือนกันยาคน พ.ศ.2549 และก่อนหน้านี้ตั้งแต่เดือน ม.ค. - ธ.ค.2548 ก็มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย" รองประธานคมช. กล่าวและว่า

การที่กองทัพเข้ามาเพื่อปฏิบัติเพื่อหยุดการบริหารชั่วคราว ต้องการเข้ามาแก้ปัญหาให้กลับเข้ามาสู่สภาวะปกติโดยเร็วแล้วเริ่มต้นใหม่ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นข้อขัดข้อง ขัดแย้ง คือ เรื่องรัฐธรรมนูญที่มีบางจุดมีข้อขัดข้องไม่เหมาะสมก็ต้องแก้ไข ขณะนี้ดำเนินการผ่านไปแล้ว 3 เดือน ถือว่า ตั้งใจให้เกิดความหลากหลายเพื่อการแก้ไขปัญหา

พล.อ.บุญรอดยอมรับมีขบวนการดิสเครดิตรัฐบาล-คมช.


พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยมอบเงินช่วยเหลือรายละ 3,000 บาท

ว่าหลังจากเกิดเหตุในวันนั้น ตนได้ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด ซึ่ง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธาน คมช. ได้โทรศัพท์มาหาแล้วว่า ฝากดูแลเรื่องนี้

นอกจากนั้นยังได้มีการติดต่อกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และเดินทางมายังกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.)

หลังจากนั้นได้มีการร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้สรุปเหตุการณ์ว่า เหตุที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากผู้ที่เสียอำนาจและดิสเครดิตรัฐบาลและ คมช. เป็นผู้ที่ไม่หวังดีต่อชาติ ทำร้ายผู้บริสุทธิ์

กว่าจะสรุปเหตุการณ์ได้


ไม่ใช่ว่านึกหรือคาดเดาเอาเองอย่างที่หลายคนพูด วันนี้ให้น้ำหนักค่อนข้างไปทางการเมือง 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ และกลุ่มที่มีศักยภาพทำได้มีอยู่ไม่กี่คน และคนที่ทำงานอย่างนี้ได้มีทั้งพลเรือนและทหาร พลเรือนหมายถึงผู้ที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี ที่จะมีทางภาคใต้และต่างประเทศ และด้วยเหตุผลโอกาสที่คนเหล่านี้จะมาทำในพื้นที่ชั้นในมันน้อยมาก

เพราะฉะนั้นก็เหลือผู้ที่อยู่ข้างในนี้แหละ อย่างที่ผมบอก พลเรือน ตำรวจ ทหาร พูดง่าย ๆ สองสีนี่แหละ คือ สีกากีและสีเขียว มันก็มีเหตุมีผลที่ทำให้สถานการณ์วุ่นวายแบบนี้ พล.อ.บุญรอด กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่รัฐบาลและ คมช. ระบุว่าเป็นเรื่องการเมือง มีหลักฐานที่จะเชื่อมโยงถึงรัฐบาลเก่าหรือรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ขณะนี้ขออนุญาตไม่ชี้ชัดดีกว่า ต้องรอให้ทางพิสูจน์หลักฐานทางการสอบสวนสาวกันไป แต่ต้องเชื่ออย่างหนึ่งว่า เราจะได้คนผิดมาลงโทษ แต่จะสาวไปได้แค่ไหนเป็นเรื่องที่ลำบาก

ภาพประกอบเนื้อหาข่าวทางอินเทอร์เน็ต



เมื่อถามว่า มั่นใจว่าจะจับกุมผู้ที่วางระเบิดได้หรือไม่


เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่ไม่สามารถจับกุมผู้วางระเบิดได้ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ต้องให้โอกาสเจ้าหน้าที่ เพราะเมื่อเหตุเกิดขึ้นแล้ว ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการว่า ข่าวนี้ได้เตือนไปแล้ว แต่ต้องยอมรับว่าการป้องกันอาจจะหละหลวม

เราได้เตือนไปอย่างกว้าง ๆ ว่าจะเกิดเหตุขึ้นในช่วงก่อนและหลังปีใหม่ แต่ไม่รู้สถานที่และเวลาที่แน่ชัด ว่าเขาจะทำอย่างไร และไม่คิดว่าจะทำกันรุนแรงขนาดนี้ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นถือว่าเหนือความคาดหมาย และในการประชุม กอ.รมน.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้ย้ำขอความร่วมมือจากทุกส่วนราชการและประชาชนให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา เพราะลำพังเจ้าหน้าที่คงไม่ทั่วถึง


ต่อข้อถามว่า จากการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี


ระบุว่า คมช.และรัฐบาลพุ่งเป้าว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า เท่าที่ฟังคำพูดของนายกรัฐมนตรีและประธาน คมช. ยังไม่ได้มีการระบุว่าใครอยู่เบื้องหลัง เพียงแต่พูดว่าเป็นผู้ที่สูญเสียอำนาจ และมีศักยภาพในการดิสเครดิต คมช. และรัฐบาล

ต่อข้อถามว่า การที่ พล.อ.ชวลิต ออกมาระบุอย่างนี้ เป็นการบ่งบอกอะไรหรือไม่ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่เข้าใจว่าเป็นการพาดพิงจากสื่อมวลชนที่โยงกันไปเอง จนกระทั่ง พล.อ.ชวลิต ออกมาตอบโต้ แต่ยังไม่มีการพาดพิงออกมาจากคำพูดของนายกรัฐมนตรี และคณะ คมช. ส่วนที่มีข่าวว่า คมช.ส่งทหารไปควบคุมหรือดูแล พล.อ.ชวลิต ที่บ้าน และอาจเรียกตัวมาสอบสวนด้วยนั้น พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ไม่มีข่าวนี้ มีเพียงฝ่ายข่าวที่พยายามสอบสวนหาหลักฐานเชื่อมโยงกัน

เมื่อถามว่า


โดยส่วนตัวเชื่อหรือไม่ว่า พล.อ.ชวลิต รับเงิน 1,500 ล้านบาท จาก พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อวางระเบิด พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องการรับเงิน แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงคงไม่สามารถปิดบังกันได้ สักวันหนึ่งก็ต้องเปิดเผย

ต่อข้อถามว่า ยังมีการวิจารณ์ว่าเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้ คมช.ลงมือทำเอง เพื่อกลบข่าวนายกรัฐมนตรี กรณีที่ดินเขายายเที่ยง และประธาน คมช. กรณีสมรสซ้อน
พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ไม่ใช่อย่างนั้น อย่างที่บอกแต่แรกว่า ถ้าตัดพลเรือนออกไป ก็จะเหลือทหารและตำรวจ แต่เนื่องจากว่าสังคมเกิดการแตกแยก มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เพราะฉะนั้นมีโอกาสสูงที่กลุ่มที่ว่านี้จะมาทำ ซึ่งสื่อต่างชาติยังพูดว่าเป็นฝีมือคนใน แต่ไม่ใช่คนใน คมช. เป็นคนในเครื่องแบบ


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์