กลายเป็นที่ฮือฮา ชื่นมื่น ชอบอกชอบใจของกลุ่มคนเสื้อแดงและแกนนำพรรคเพื่อไทยรวมถึงผู้นำประเทศกัมพูชา กับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่มีทีท่าว่าจะกลับมาสดใสอีกครั้ง ภายหลังเสร็จสิ้นการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษระหว่างแกนนำเสื้อแดงกับรัฐบาลกัมพูชา ที่กรุงพนมเปญประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา
และในงานดังกล่าวนี้ ไม่บังเอิญให้บรรดาผู้สื่อข่าวจากหลายสำนักได้เจอกับแกนนำคนเสื้อแดง ผู้มีชื่อขึ้นอยู่บนแบล็คลิสต์อันดับต้นๆของทางการไทย ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีก่อการร้าย เขาคือ กีร์ - อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
ในโอกาสนี้ มติชนออนไลน์ จึงขออนุญาตหยิบยกคำบอกเล่านาทีเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553 จากการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง ที่แยกราชประสงค์ ก่อนที่กีร์ อริสมันต์ จะหลบหนีออกจากประเทศไทยอย่างไร้ร่องรอย แต่ไม่วายหนีจากข่าวคราวที่มีระลอกๆไปได้ กับการที่เขาสัมภาษณ์กับสำนักข่าวเนชั่นอย่างลงลึก และได้อรรถรสในฐานะผู้หลบหนีมาให้ได้อ่านกัน...
"เหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553 ที่มีการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง ที่แยกราชประสงค์ พวกเราแกนนำได้ตัดสินใจยุติการชุมนุม เพราะเกรงว่าจะมีคนตายอีกเยอะ ที่ผ่านมา พวกเราไม่คิดว่ามันจะเลวร้ายขนาดนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรุนแรงเกินไป สำหรับผมเองเมื่อมีการตัดสินใจอย่างนี้ ก็รู้ว่าเราคงไม่อยู่ในประเทศ ผมตัดสินใจไม่ยอมอยู่แล้ว
"วันนั้นผมเดินออกจากที่ชุมนุมออกมาทางประตูน้ำ ซึ่งตรงนั้นทหารเยอะมาก แต่เชื่อมั้ยเรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้น ทั้งเรื่องที่ผมสามารถหลบหนีออกจากโรงแรมเอสซี ปาร์ค และหลังจากนั้น ก็มีคนนำพระมาให้ผม ในสร้อยคอหนึ่งเส้นมี 3 องค์ และผมไม่ชอบแขวนพระ ถ้าสังเกตแกนนำหลายคนแขวนพระกันเต็มคอหมดเลย แต่ผมไม่ชอบแขวนพระ 2 วันผ่านมา มีพระมาเข้าฝันเลยตกใจสะดุ้งตื่นเลย รีบนำพระมาแขวนคอ เพราะในฝันท่านมาบอกว่า “ทำไมมึงไม่แขวนกู” ซึ่งในจำนวนพระ 3 องค์นี้ ผมรู้จักแค่คนเดียว คือ หลวงพ่อฉุย เพราะมันติดตาในฝัน จากนั้นก็รอดแคล้วคลาดมาโดยตลอด ผมก็เล่าเรื่องหลวงพ่อมาเข้าฝันให้พี่แดง (พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล) ฟัง แต่พี่แดงแกไม่เชื่อ
มาถึงตอนที่ผมจะเดินออกจากม็อบ ผมไปนั่งอยู่ที่หน้าศาลพระพรหมอยู่นานมาก กระทั่งคนขายเสื้อผ้าแถวนั้น มาขอว่า พี่ยอมแพ้ เชื่อผมเถอะ ยังไงพี่ก็ไม่รอด ผมก็กอดคอคนขายเสื้อผ้า แล้วบอกว่า “วันนี้ถ้าชีวิตมันตาย มันก็ต้องตาย น้องก็ได้รู้ว่าพี่ต้องตายวันนี้” จากนั้นผมก็ถอดรองเท้า มันก็เอารองเท้ามาให้ใส่ เป็นรองแตะหูคีบ ถอดเสื้อเปลี่ยนเป็นเสื้อโทรมๆ แล้วเดินออกไป ระหว่างนั้นทหารก็วิ่งสวนมา แต่ก็ผ่านผมไป แล้วผมก็ซื้อฮอล์ล กับบุหรี่ 10 ม้วน แล้วก็สูบบุหรี่ไปเดินไป ก็สวนกับทหารเป็นระยะๆ