พท.แฉอีกประมูลซีซีทีวีส่อเค้าฮั้วทางอีอ๊อกชั่น เผยเอกชนที่ประมูลได้บริจาคเงินให้ ปชป.เตรียมส่งข้อมูลเพิ่มให้ ดีเอสไอ เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่พรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรค พร้อมด้วยนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย ได้นำตัวอย่างอุปกรณ์หุ้มกกล้องซีซีทีวี หรือที่เรียกว่าเฮาส์ซิ่ง มาแถลงว่า กล่องดังกล่าวมีวางขายที่ตลาดคลองถมเป็นจำนวนมาก ในราคา 550 บาท โดยเมื่อนำไปติดตั้งแล้วจะมีติดฟิลม์เพื่อเป็นการทำให้ดูเหมือนว่ามีกล้องอยู่ภายใน แต่ถ้าเป็นกล้องดัมมี่จะราคาประมาณ 2,000 กว่าบาท แต่ไม่สามารถถ่ายภาพได้ เพียงแต่ใส่ถ่านสามเอเพื่อให้เกิดไฟกระพริบไว้สำหรับหลอกโจรให้เข้าใจว่ามีกล้องจริง
นายจิรายุกล่าวต่อว่า ปัญหานี้เกิดใน 2 ช่วงเวลา คือ ในสมัยที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นผู้ว่าฯกทม. ใช้งบประมาณ 330 ล้านบาท จัดซื้อกล้อง 246 ตัว เท่าที่ตรวจสอบพบว่ามีเฮ้าส์ซิ่ง 1,325 ตัว และช่วงที่ 2 คือช่วงที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร เป็นผู้ว่าฯกทม. ที่มีการประมูลในระบบอีอ็อกชั่น ในช่วงเวลา 1 ปี 6 เดือน กทม.ได้ใช้งบประมาณ 2,463 ล้านบาท ในการจัดซื้อและติดตั้งกล้องซีซีทีวี และเมื่อตรวจสอบพบว่ามีบริษัทในกลุ่มบริษัทเอกชนรายหนึ่งเข้าไปถือหุ้นในบริษัทที่ประมูลได้ เป็นบริษัทเดียวกับบริษัทที่บริจาคเงินให้กับพรรคประชาธิปัตย์
นายจิรายุ กล่าวว่า หลังจากติดตั้งกล้องแล้วจะต้องมีการเชื่อมสัญญาณด้วยระบบไฟเบอร์ออฟติกและพบว่ามีการประมูลราคากันอย่างน่าตกใจที่ทาง กทม.อ้างว่าใช้มาตรฐานเดียวกันกับการไฟฟ้านครหลวง แต่การไฟฟ้าฯติดตั้งในราคา 160 บาทต่อเมตร ขณะที่ กทม.ติดตั้งในราคา 400 บาทต่อเมตร นอกจากนั้นยังพบว่ายังมีลักษณะฮั้วประมูลที่มีผู้เข้าไปประกวดราคาเพียง 4 รายทั้งที่มีบริษัทลักษณะนี้กว่า 200 ราย ที่มีของดีและราคาถูกเข้าไปประมูลงานในระบบอิอ็อกชั่นในวันเดียวกันคือวันที่ 24 ธันวาคม 2552 และเคาะราคาวันเดียวกันคือ 13 มกราคม 2553 และใช้เวลาประมูลเพียง 10 นาที นอกจากนั้นยังเสนออนุมัติจ้างวันเดียวกันคือ 19 มกราคม 2553 เห็นว่าเป็นการทำงานกันอย่างเป็นระบบ
“ผมได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดและจะส่งข้อมูลให้ดีเอสไอในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ดังนั้นขอเรียกร้องให้ผู้ว่าฯกทม.ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ อย่าให้ใครต้องมาตีแผ่แล้วจนมุมในตอนสุดท้าย นอกจากนี้ยังพบว่าการติดตั้งกล้องดังกล่าวยังมีปัญหาในเรื่องค่าไฟที่ยังตกลงกันไม่ได้ ว่าหน่วยงานไหนจะเป็นผู้รับผิดชอบ และอยากเรียกร้องให้กฤษฎีกาตีความในสัญญาว่าจ้างว่าระหว่างคำว่าดัมมี่และเฮาส์ซิ่งมันแตกต่างกันอย่างไร เพราะเท่าที่ตรวจสอบในพื้นที่ กทม.เราพบแต่เฮาส์ซิ่งไม่ใช่ดัมมี่ อย่างไรก็ตามเราได้ยื่นญัตติในสภาที่จะมีการอภิปรายในสัปดาห์หน้าปรากฏว่าพรรคประชาธิปัตย์แก้เกี้ยวด้วยการยื่นญัตติซ้อนเกี่ยวกับการตรวจสอบกล้องซีซีทีวีในพื้นที่ภาคใต้
ด้านนายพลภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ กทม. ขึ้นป้ายว่า กทม.ติดตั้งกล้องซีซีทีวีครบแล้ว 1 หมื่นตัว เราจึงตั้งข้อสังเกตว่ามีกล้องจริงกี่ตัว กล้องแหกตากี่ตัว และเท่าที่ตรวจสอบพบว่าขณะนี้ กทม.ได้มีการติดตั้งกล้อง 2 ตัวในจุดเดียวกัน ประกอบด้วยกล้องจริงและกล้องดัมมี่ ที่มีหลายเลขเครื่องชัดเจนและมีตัวอักษร “D” อยู่ท้ายเครื่อง ทราบว่ามีการติดตั้งแล้ว 4,000 ตัวที่มีการติดตั้งอยู่ตามสถานที่ราชการและโรงเรียน
นอกจากนั้นยังตรวจสอบพบว่า กทม.มีการติดตั้งกล้องดัมมี่ ในพื้นที่เขตบึงกุ่มมากที่สุด แต่พบว่าในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมามีเหตุวางเพลิงรถยนต์ 6 คันและไม่สามารถตรวจสอบภาพจากวงจรปิดได้ และไม่มีการลิงค์สัญญาณมายังสำนักงานเขต เมื่อเราตรวจสอบพบว่ามีปัญหาเช่นนี้ ปรากฏว่าสำนักงานเขตแห่งหนึ่งได้เรียกอบรมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องที่ดูแลระบบซีซีทีวีทันที นอกจากนั้นทางพรรคยังได้สั่งให้ส.ส.กทม.ตรวจสอบ การติดตั้งกล้องซีซีทีวีทุกพื้นที่.