แนะตั้งตัวแทนไทย-เขมรช่วยวีระ-ราตรี

นายนิรมิต สุจารี ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมการบริหารหน่วยประจำชาติไทยในสมัชชาอาเซียน (เอไอพีเอ) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากร่วมประชุมที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 19-22 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา เป็นหัวหน้าคณะว่า หลังประชุมเสร็จสิ้น เขาได้มีโอกาสเข้าพบสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งท่านได้แสดงความดีใจที่พรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมากเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เหมือนกับที่สมเด็จฮุนเซน ได้เสียงข้างมากจากการเลือกตั้งเช่นกัน

นายนิรมิต  กล่าวถึงกรณีของนายวีระ สมความคิด และน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ

ที่ถูกจำคุกอยู่ที่เรือนจำเปรซอร์ กรุงพนมเปญ ว่า นอกจากท้ังสองคนแล้ว ยังมีคนไทยที่ถูกจำคุกอยู่ในกัมพูชาอีกประมาณ 37 คน และมีคนกัมพูชาที่ถูกจำคุกอยู่ในประเทศไทยด้วยเช่นกัน เพียงแต่คนไทยที่ถูกจับนั้นไม่ได้เข้าไปจารกรรมข้อมูล แต่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ติดตามไปดูช่องทางขนไม้พะยูงจากกัมพูชามาฝั่งไทย แล้วถูกจับในพื้นที่จ.ศรีสะเกษ จนถูกทางการของกัมพูชาตั้งข้อหาจารกรรม

         
"เรื่องนี้ทั้ง 2 ประเทศ น่าจะตั้งคณะกรรมการ ที่มีตัวแทนจากกระทรวงยุติธรรมของทั้ง 2 ประเทศ ขึ้นมาศึกษาแนวทางว่า จะสามารถดำเนินการอะไรได้บ้าง และอาจจะเป็นทางออกให้มีการปล่อยนายวีระและน.ส.ราตรีด้วย อย่างไรก็ตาม คงต้องเคารพกฎหมายของแต่ละประเทศด้วย"

นายนิรมิต บอกว่า เขายังมีโอกาสได้พบกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย ในฐานะที่เคยเป็นลูกพรรคไทยรักไทย
 
ในสมัยที่พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรค และเป็นนายกรัฐมนตรี โดยพ.ต.ท.ทักษิณ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี และยังบอกด้วยว่า จะติดตามการทำงานของส.ส.อย่างใกล้ชิดด้วย โดยขอให้ส.ส.ช่วยเป็นหูเป็นตาในพื้นที่ และขอให้ตั้งใจทำหน้าที่ส.ส. ทำงานให้กับพรรค พร้อมกับลงพื้นที่รับใช้ประชาชน เพื่อนำปัญหาในพื้นที่มาเสนอต่อรัฐบาลเพื่อหาแนวทางแก้ไขให้ด้วย 

         
"รัฐบาลต้องทำตามนโยบายต่าง ๆ ที่เคยหาเสียงไว้ ทั้งนโยบายเอสเอ็มแอลและการเพิ่มงบประมาณให้กองทุนหมู่บ้าน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาน้ำท่วม ที่เป็นปัญหาเฉพาะหน้า"

         
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณ ยังขอให้ส.ส.ลงพื้นที่ ไปให้กำลังใจประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมด้วย และต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ

โดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจคในภาคอีสาน ได้กำชับให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ โดยแบ่งหน้าที่ให้รัฐมนตรี 1 คน รับผิดชอบพื้นที่เป็นรายจังหวัดไปแล้ว ตามนโยบายของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แล้วให้นำผลความคืบหน้าหรือปัญหามารายงานต่อพรรคทุกวันจันทร์