พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ ภายหลังเดินทางมาอำลาชีวิตราชการที่กองทัพอากาศ
ในโอกาสที่จะเกษียณอายุราชการ วันที่ 30 กันยายนนี้ มี พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ให้การต้อนรับ ว่า มาขอบคุณที่กองทัพอากาศให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงานตลอดเวลาที่ผ่านมา และไม่มีเรื่องใดที่ห่วงกังวล หรือต้องฝาก เพราะมีความเชื่อมั่นในตัวผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ที่จะนำพากองทัพและประเทศชาติ ไปสู่ความมั่นคงเข้มแข็ง เดินไปข้างหน้าได้ เพราะแต่ละคนได้รับการหล่อหลอม และคัดสรรมาอย่างดี
ส่วนความคืบหน้าเรื่องการพิจารณาบัญชีปรับย้ายนายทหารใหม่ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีส่งบัญชีรายชื่อกลับมาให้กระทรวงกลาโหมพิจารณาใหม่
เพราะไม่เปิดตำแหน่งประธานที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลไม่เปิดตำแหน่งดังกล่าวให้ ก็มีความจำเป็นที่จะต้องหารือกัน เพื่อปรับปรุงตำแหน่งกันใหม่ หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมต้องการปรับปรุงบัญชีรายชื่อ ก็จะเชิญกรรมการประชุม ซึ่งที่ประชุมจะได้เสนอความคิดเห็นกัน
“ก็ต้องมาคุยกันว่าจะพิจารณากันถึงจุดไหน เหมาะสมอย่างไร พวกเราทำงานกันมา 40 กว่าปี ผ่านงานต่าง ๆ และรู้จักทุกคนดี ถ้าเห็นว่าใครควรรับตำแหน่งอะไร ก็มานั่งคุยกัน เรื่องธรรมดา และด้วยความเคารพต่อทุกท่าน รักต่อประเทศชาติและกองทัพ ผู้บังคับบัญชาระดับนี้จะคิดเหมือนกัน ผมเชื่อมั่น ส่วนจะกระทบมาถึงบัญชีรายชื่อของเหล่าทัพด้วยหรือไม่ ก็แล้วแต่ว่าจะมีส่วนที่เกี่ยวข้องตรงไหนบ้าง เพื่อให้เกิดความเหมาะสม ส่วนข่าวว่ามีปัญหาในส่วนของตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ผมยังมองไม่เห็นว่ามีปัญหาตรงไหน” พล.อ.ทรงกิตติ กล่าว
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยังยืนยันว่า ทหารกับประชาชนไม่ได้ขัดแย้งกัน และไม่มีสิ่งใดที่จะแยกกองทัพออกจากประชาชนได้
เพราะทหารก็คือประชาชน ประเทศต้องการพลังจากประชาชน 66 ล้านคน ช่วยกันทำให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้า เราลดบางอย่างลง และก้าวข้ามบางอย่างไปบ้าง เวลาที่เสียไป ทำให้ประเทศชาติเสียโอกาสไปมากมายแล้ว ควรทำในสิ่งที่ดีเพื่อประเทศชาติ ส่วนกรณีที่ยังมีความคิดเรื่องทหารจะปฏิวัติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า เป็นเรื่องที่คิดกันไปเอง และไม่จำเป็นต้องสร้างกระแส เพราะ “ไม่มีใครคิดแล้ว”.- สำนักข่าวไทย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
