บรรหารประณามมือบึ้มสุดเหี้ยม แขวะโกวิทเกิดเหตุไม่ลงพื้นที่

ป่วนขู่วางระเบิดโรงเรียนกิ่งเพชรพญาไทยอีก บรรหารประณามมือบึ้มเมืองกรุงโหดเหี้ยม เชื่อมีผู้บงการแน่เชี่ยวชาญด้านระเบิด เหน็บเก้าอี้ ผบ.ตร.ถูกยุบ ไม่เห็นหน้า พล.ต.อ.โกวิท ตรวจพื้นที่ แขวะ บิ๊กจิ๋วพูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอย ยุติธรรมระดมเครือข่ายแจงเบาะแส เตรียมจ่ายเงินค่าทดแทนเหยื่อ

เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.ตำรวจ สน. พญาไท รับแจ้งมีการโทรศัทพย์ขู่วางระเบิดโรงเรียนกิ่งเพชร ตั้งอยู่บน ถนนบรรทัดทอง สร้างความตกใจและแตกตื่นให้แก่นักเรียน ครู ในโรงเรียนเป็นอย่างมาก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้กันทุกคนออกมาจากโรงเรียนหมดแล้วและอยู่ระหว่างตรวจสอบ

ยุติธรรมเตรียมระดมเครือข่ายแจงเบาะแส

เมื่อเวลา 09.30 น.นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้เชิญผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม และกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพเข้าหารือเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือกรณีเหตุวางระเบิด

หลังจากนั้นนายธงทอง จันทรางศุ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ปลัดกระทรวงได้ซักซ้อม 2 เรื่องสำคัญ 1.ให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพเร่งรัดการจ่ายค่าทดแทนให้กับผู้เสียหายจากเหตุระเบิดให้เรียบร้อย รวมถึงผู้บาดเจ็บชาวต่างชาติโดยจะเริ่มจ่ายตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (4 ม.ค.) เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ได้นำเหตุการณ์ระเบิดที่ท่าอากาศยานอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา มาเทียบเคียงกรณีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตจากอาชญากรรม ผู้เสียชีวิตจะได้รับค่าทดแทน 1 แสนบาท แบ่งเป็นค่าปลงศพ 2 หมื่นบาท ค่าทดแทนการเสียชีวิต 5 หมื่นบาท และค่าขาดไร้อุปการะ 3 หมื่นบาท

สำหรับได้แก่ บาดเจ็บเล็กน้อย จ่ายค่าทดแทน 1 หมื่นบาท ผู้บาดเจ็บที่ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 2 หมื่นบาท และผู้พิการ 3 หมื่นบาท

นายธงทอง กล่าวอีกว่า ปลัดกระทรวงยุติธรรม ยังมีคำสั่งให้ขยายเวลาเปิดศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรมตลอด 24 ชั่วโมง โดยประชาชนสามารถโทรศัพท์แจ้งเบาะแสข้อมูลต่างๆได้ที่หมายเลข 02-5026500

ด้านนายจรัญ กล่าวว่า ในเวลา 14.00 น.วันนี้ (3 ม.ค.) นายชาญชัย ลิขิตจิตถะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จะเป็นประธานประชุมทุกส่วนราชการในกระทรวงยุติธรรม เพื่อระดมข้าราชการและเครือข่ายยุติธรรมชุมชน

และอาสาสมัครจากทุกส่วนให้ร่วมกันเป็นหูเป็นตารายงานข้อมูลป่วนเมืองทุกรูปแบบ หลังจากนี้จะต้องช่วยกันกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักว่ามีคนไม่รับผิดชอบไม่คำนึงถึงอะไรนอกจากประโยชน์ส่วนตัวปะปนอยู่ในสังคมประชาชนจึงต้องช่วยกันแจ้งเบาะแสเพื่อลดพื้นที่ว่างและโอกาสที่คนร้ายจะใช้ก่อกวน

กรณีที่พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รักษาการ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ระบุว่าไม่ได้รับความร่วมมือจากตำรวจในการเก็บวัตถุพยานจากที่เกิดเหตุระเบิดนั้นเป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ทางบริหาร เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำลายประเทศและทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์เจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยต้องประสานการทำงานร่วมกัน ให้ได้นายจรัญ กล่าว

นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า ตนขอประณามคนทึ่ทำว่ามีจิตใจเหี่ยมโหดทำให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ทำลายประเทศชาติทางอ้อมทำให้ความน่าเชื่อต่อชาวต่างประเทศลดลง คนไม่มาท่องเที่ยว คนที่ทำต้องเป็นคนไทยและต้องมีผู้บงการอย่างแน่นอน โดยผู้บงการต้องเป็นคนที่รอบรู้ เชียวชาญทางด้านระเบิด ไม่อย่างนั้นคงกำหนดจุดไม่ได้ว่าลูกไหนวางตรงไหนจะระเบิดเมื่อไหร่

นายบรรหารกล่าว

นายบรรหาร กล่าวว่า พูดถึงตำรวจในการเข้าคลี่คลายปัญหาต่างๆนั้นรู้สึกหนักใจ 2 วันมานี้ตนไม่เห็นหน้า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. เลยแม้กระทั้งออกมาให้สัมภาษณ์หรือลงพื้นที่เกิดเหตุ

มีแต่โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติคนเดียว ตนไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน ไม่เข้าใจว่าบ้านเมืองมี ผบ.ตร.หรือไม่ หรือถูกยุบไปแล้ว คนอื่นลงพื้นที่ไปดูพื้นที่กันหมด ผู้ว่า กทม.ก็ลงไปทุกจุด แต่ ผบ.ตร.เป็นผู้รับผิดชอบ กองบัญชาการตำรวจนครบาลและ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางกลับไม่รู้อยู่ที่ไหน

เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำหนังสือชี้แจงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นการร้อนตัวหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ต่างประเทศเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น เป็นธรรมดาที่ต้องชี้แจงมาว่าไม่รู้ ไม่เกี่ยวข้อง

ใครจะมาชี้แจงว่าเกี่ยวข้องคงเป็นไปไม่ได้ ก็ต้องเชื่อไว้ ตนก็อยากรู้ว่าใครทำ แต่ตนเชื่อว่าใครทำบาปกรรม ใครทำกรรมไว้ ต้องตอบสนองคนที่สั่งทำแน่นอน ตอนนี้ตนก็หวาดเสียว ได้สั่งเจ้าหน้าที่ให้ระมัดระวังคอยตรวจตราให้ดี โดยเฉพาะถังขยะ เพราะตนยิ่งชอบเชียร์คมช.อยู่ ไม่รู้ว่าเชียร์มากไปคนจะหมั่นไส้เอาหรือเปล่าก็ไม่รู้

เมื่อถามว่าความขัดแย้งทางการเมืองจะเป็นต้นเหตุให้เกิดความวุ่นวาย นายบรรหาร กล่าวว่า ความขัดแย้งทางการเมืองมีแน่นอน หนีไม่พ้น เพราะความคิดเห็นที่แตกต่างกัน จะหาข้อยุติได้ก็คือรัฐธรรมนูญเสร็จและมีการเลือกตั้ง ตราบใดที่ไม่มีรัฐธรรมนูญ ไม่มีการเลือกตั้ง เหตุการณ์ก็จะเป็นแบบนี้ตลอด ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแลให้ดี

นายบรรหาร กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ที่ให้สัมภาษณ์ว่านายบรรหาร และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชอบออกมาสนับสนุน คมช.อยู่เรื่อยๆ ถือว่าเป็นคนใช้ไม่ได้

ว่า ตอนนี้ตนกลายเป็นคนใช้ไม่ได้ในสายตา พล.อ.ชวลิตไปแล้วหรือ พูดเช่นนี้ทำให้เกิดความแตกแยกในพวกเรากันเอง ทั้งที่ควรต่อสู้ในเรื่องประชาธิปไตยดีกว่า ซึ่งที่ผ่านมาตนมีจุดยืนตลอด และคิดว่าจะหาสิ่งที่ดีกว่านี้ในตอนนี้คงไม่มีหรอก ถ้ามีการก่อความวุ่นวายขึ้นเรื่อยๆ ก็ไม่รู้ว่าอนาคตการเมือง ประเทศชาติจะเป็นอย่างไร

ดังนั้นเมื่อมี คมช.อยู่ตรงนี้เราก็ควรให้กำลังใจรัฐบาล และ คมช.ทำงานให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี 1 ปีออกรัฐธรรมนูญมาให้ได้ก็ถือว่าจบ จะมาต่อสู้กันเองจะไม่ดี หากมองสิ่งที่พล.อ.ชวลิตพูดอย่างที่เคยบอกว่าจะมีปฏิวัติซ้อน

แต่อีกวันกลับบอกว่าไม่ได้พูด หรืออย่างกรณีโบกี้รถไฟ ของนายกฯที่เขายายเที่ยงวันหนึ่งก็บอกว่าไม่ทราบ ไม่รู้ พออีกวันก็บอกว่าที่พูดเรื่องนี้เพื่อต้องการเตือนนายกฯ ทำทุกอย่างให้ถูกต้อง ไม่รู้ว่าทำไม พล.อ.ชวลิตพูดวันนี้อย่าง พรุ่งนี้อีกอย่าง

ผมเป็นคนมีจุดยืน ไม่พูดจาเหลาะแหละเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ตอนนี้อายุก็มากแล้ว 70 กว่า ก็ไม่รู้จะอยู่ไปได้ซักกี่วัน ขณะนี้ก็มีหลายคนเตือนผมอย่าพูดมาก เพราะพูดมากไปแล้วนายบรรหาร กล่าว

ข้อมูลที่มีคุณภาพ
จาก หนังสือพิมพ์ คม.ชัด.ลึก