ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เมื่อวันที่ 18 กันยายน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้า ปชป.
ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการเตรียมถอนกำลังทหารไทยออกจากพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรชายแดนเขาพระวิหาร ว่า ทางการต้องออกมายืนยันว่าอะไรเป็นอะไร โดยต้องเริ่มต้นจากที่รัฐบาลเป็นผู้กำหนดนโยบายและทิศทางให้ชัดว่าจะจัดระบบการดูแลพื้นที่อย่างไร ซึ่งเดิมเราเห็นว่าต้องผ่านกระบวนการที่ต้องเจรจากันให้ชัดเจนว่าแต่ละฝ่ายจะดูแลอย่างไรบ้าง
เมื่อถามว่าขณะนี้ท่าทีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ไม่ตรงกันเพราะนายกฯจะนำกำลังตำรวจขึ้นไปดูแล ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยืนยันจะคงกำลังทหารไว้ในพื้นที่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลที่แล้วจึงได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อประสานให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันและมีจุดยืนที่จะไปพูดคุยกับกัมพูชาว่า จะดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องศาลโลกอย่างไร เราไม่ทราบว่าในการพบปะกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฝ่ายเราไปพูดคุยอะไรไว้บ้าง โดยต้องดำเนินการให้เป็นเอกภาพ ขณะเดียวกันก็ต้องมีแผนรองรับทั้งหมดไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร
เมื่อถามว่า ท่าทีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่แสดงออกนั้น มองว่าไทยจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบ
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนมีความเป็นห่วงเพราะในช่วงแรกเหมือนกับการพูดถึงพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรนั้น ไม่มีการยืนยันให้ชัดเจน และแม้มายืนยันแล้วก็ยังไปพูดถึงความทับซ้อนอีก ซึ่งรัฐบาลที่แล้วชัดเจนว่าพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่ของเรา และเป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการ ทั้งการเจรจาทางกฎหมายหรือวิธีการอื่นๆ ในการปกป้องตรงนี้
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯไปบรรยายเกี่ยวกับประเด็นเศรษฐกิจที่กัมพูชาและแนะนำให้กัมพูชารีบขุดน้ำมันขึ้นมาใช้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณถูกระบุมาโดยตลอดว่ามีผลประโยชน์ในการที่จะเข้าไปทำธุรกิจตรงนั้น ก็คงอยากให้มันเกิดขึ้น และรัฐบาลพรรคเพื่อไทยก็ต้องปกป้องประโยชน์ของประเทศ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า กรณีที่รัฐบาลเตรียมนำเอ็มโอยู 2544 กลับมาใช้โดยไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงคงไม่ได้ โดยเฉพาะกรณีของเกาะกูด และในแง่ของการแบ่งปันผลประโยชน์กันก็ต้องดูแลไม่ให้เสียเปรียบ ถ้าทำแล้วไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ก็ถือว่าเป็นโมฆะ ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้ว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
