ไม่หวั่นถูกค้านเดินหน้าตั้งกองทุนมั่งคั่ง

ให้ธนาคารชาติเร่งศึกษาข้อดีข้อเสียและสร้างความเข้าใจฝ่ายต่างๆ ให้ได้ข้อสรุป

เมื่อวันที่ 5 ก.ย.  นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง เปิดเผยถึงการเดินหน้าการจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ ด้วยการแยกบัญชีย่อยจากทุนสำรองระหว่างประเทศว่า  แม้ขณะนี้จะเริ่มมีกระแสคัดค้านจากกลุ่มลูกศิษย์หลวงตามหาบัว แต่กองทุนดังกล่าวไม่ได้นำเงินบริจาคและทองคำจากหลวงตามหาบัวมาตั้งกองทุน เพราะมีตัวเลขและการแบ่งแยกบัญชีที่ชัดเจน  

ทั้งนี้ต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไปศึกษาข้อดีข้อเสียการจัดตั้งกองทุนให้ชัดเจนและสร้างความเข้าใจกับฝ่ายต่าง ๆ เพื่อได้ข้อสรุปก่อนเดินหน้า โดยการบริหารกองทุนดังกล่าว หากได้กำไร จะให้ ธปท.หักค่าใช้จ่ายด้านภาระดอกเบี้ย เมื่อออกพันธบัตรดูดซับสภาพคล่องของระบบ เพราะถือเป็นภาระจากบัญชีย่อยและหักค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จากการดำเนินการ แต่หากขาดทุน รัฐบาลพร้อมตั้งงบประมาณเข้าไปชดเชยภาระดังกล่าว 

นายธีระชัย กล่าวต่อว่า  การลงทุนทุกด้านมีความเสี่ยง และมีโอกาสได้ประโยชน์ เพราะที่ผ่านมา ธปท.นำเงินไปลงทุนซื้อพันธบัตรสหรัฐและยุโรป สิ้นปี 53 มีราคาลดลง จนขาดทุน 260,000 ล้านบาท และยังขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนถึง 100,000 ล้านบาท รวมทั้งภาระอื่น ๆ จนขณะนี้ ธปท. ยังมีฐานะติดลบ 400,000 ล้านบาท ยังไม่ได้ขอรัฐบาลตั้งงบชดเชยให้ เพราะเป็นการบริหารในส่วนของ ธปท.เอง.