เฉลิมสั่งสตช.สอบฟอร์เวิร์ดเมลคุกคามนักข่าว

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีอีเมลของคนเสื้อแดงขู่ทำร้ายผู้สื่อข่าวรายหนึ่งว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งด้วยวาจาให้ตนติดตามเรื่องที่มีการฟอร์เวิร์ดอีเมลคุกคามผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 รายหนึ่งว่าเป็นอย่างไร

และหากคิดว่ารัฐบาลข่มขู่นั้น ไม่มี จะไปข่มขู่สื่อคนเดียวเพื่ออะไร เพราะสื่อทุกสาขามีประมาณ 5,000 คน จึงเป็นไม่ได้ที่จะไปข่มขู่ และผู้สื่อข่าวจะนำข่าวไปออกอากาศด้วยตนเองไม่ได้ จะต้องผ่านหัวหน้าข่าว บรรณาธิการ กลั่นกรองโดยเฉพาะข่าวของโทรทัศน์ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ อาจเข้าข่ายหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เพราะแพร่ไปทั่วประเทศและประเทศใกล้เคียง 

“อากับผู้สื่อข่าวรายนั้นสนิทกันนะ เกือบ 20 ปีตั้งแต่ที่เขาทำข่าวใหม่ๆ ตั้งแต่ยังสาว เท่าที่เคยทำงานร่วมกันมาเขาก็เป็นคนที่ตั้งคำถามตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรเลย เขาเป็นคนน่ารัก สนิทกัน” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว 

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนมีประสบการณ์ช่วงที่อยู่กองปราบฯ มีพ่อค้าเพชรรายหนึ่งเขียนจดหมายขู่ตัวเองถ้าอยู่บ้านต่อไปต้องตายภายใน 7 วัน และได้นำจดหมายไปให้ภรรยาดู ภรรยาจึงอนุญาตให้ออกนอกบ้าน ไปอยู่บ้านที่ 2 ได้สบาย ซึ่งตนได้ติดตามเรื่องนี้ไม่ใช่คนร้ายขู่ แต่เป็นการขู่ตัวเอง อย่างไรก็ตามตนจะติดต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะทราบว่ามีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ให้ติดตามเรื่องนี้ว่าจริงๆเป็นอย่างไร ถ้าหากให้ผู้สื่อข่าวมาถาม ตนไม่ตอบก็ได้เป็นสิทธิ จึงไม่มีเหตุผลที่รัฐบาลจะทำ อาจมีคนต้องการโยนเผือกร้อนให้รัฐบาลก็เป็นได้ 

เมื่อถามว่ากลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยเป็นคนทำเรื่องนี้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า กลุ่มผู้สนับสนุนมี 15 ล้านคน คงไม่ทราบว่าใครเป็นคนทำ เชื่อตนเถอะ เดี๋ยวจัดการให้ ในการหาข้อเท็จจริงหากพิสูจน์ได้ว่าใครเป็นคนทำก็มีความผิด
 
เมื่อถามว่าจะมีการคุยเพื่อทำความเข้าใจกับสื่อหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ต้องแยกกันระหว่างสื่อกับคนจัดรายการ สื่อคือสื่ออาชีพ แต่คนจัดรายการมานั่งด่าทุกวัน ถือว่าเป็นมือปืนรับจ้างที่ไปรับงานมา ถ้าสื่อวิพากษ์วิจารณ์ออกรายการปกติ นักการเมืองรับได้ แต่ตนไม่มีหน้าที่เปลี่ยนรายการ ถอดรายการ