ในช่วงค่ำ วันที่ 23 สิงหาคม นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายถึงนโยบายพักหนี้เกษตรหรือผู้มีรายได้ต่ำ ไม่เกิน 5 แสนบาท ว่า
ได้ประสานไปยังธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธกส. ซึ่งเป็นสถาบันการเงินของรัฐ แต่ปัจจุบันมีประชาชนที่เป็นหนี้ 16 ล้านคน ต้องพักหนี้ถึง 300,000 ล้านบาท รวมถึงการดูแลการพักหนี้นอกระบบที่มีประชาชนเป็นหนี้นอกระบบเป็นจำนวนมาก ซึ่งกำลังรอความชัดเจนของรัฐบาลด้วย ขณะที่ค่าจ้างขั้นต่ำกับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้มีแนวโน้ม ว่าบางคนจะได้ 300 บาท ส่วนผู้ที่ไม่ได้ 300 บาท เนื่องจากมีเงื่อนไขของประสิทธิภาพการทำงานมาเป็นตัวชี้วัด ด้านนโยบาย 15,000 บาท ก็ยังไม่มีความชัดเจน ว่าสุดท้ายแล้วจะได้หรือไม่ จึงเรียกร้องให้รัฐบาลทำให้เกิดความชัดเจนว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามที่หาเสียงไว้หรือไม่ ขณะเดียวกันนโยบายรัฐบาลที่เพิ่มความเหลื่อมล้ำ เช่น การสกัดกั้นไม่ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยดูแลเงินเฟ้อ ลดภาษีน้ำมัน ภาษีรถยนต์ ทำให้ชาวบ้านที่ไม่มีรถต้องเสียภาษีแพง รวมถึงนโยบายลดภาษีนิติบุคคล ทำให้บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่ต้องเสียภาษี 1 ใน 3 ของภาษีนิติบุคคลทั้งหมดได้รับประโยชน์ ทั้งที่บริษัทเหล่านี้มีผลกำไรมหาศาล
นอกจากนี้ นายกรณ์ ยังตั้งข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลดำเนินนโยบายเพื่อช่วยเหลือพวกพ้อง เช่น นโยบาย บ้านหลังแรก
โดยลดภาษีนิติบุคคล ภาษีเฉพาะและภาษีค่าโอนให้กับผู้ประกอบการบ้านจัดสรรที่มีกำไรเพิ่มขึ้นในปีล่าสุดร้อยละ 33 พร้อมกันนี้นายกรณ์ ยังได้ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงข้อครหาที่ครอบครัวถือหุ้นในบริษัท เอส ซี แอสเซท บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ขนาดใหญ่
การอภิปรายของอดีตรมว.คลัง นั้น ทำให้นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ต้องลุกขึ้นชี้แจงอีกครั้ง
โดยยืนยันว่า วัตถุประสงค์ของนโยบายเพื่อต้องการให้ประชาชนตั้งตัวมีบ้านหลังแรกเป็นของตัวเอง โดยลดภาษีให้กับประชาชนโดยตรงไม่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการ หากมีความคิดช่วยเหลือผู้ประกอบการก็มีหลายวิธี ไม่จำเป็นต้องด้านภาษี