เอแบคโพลล์ชี้ปชช.เลือก บิ๊กบัง บุคคลแห่งปีด้านการเมือง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 31 ธันวาคม 2549 13:12 น.

เอแบคโพลล์สำรวจความเห็น ข่าวดีข่าวร้ายทางการเมือง และบุคคลแห่งปี 49 ของคอการเมือง ส่วนใหญ่พอใจที่ประธาน คมช.ประกาศไม่สืบทอดอำนาจ และการปฏิรูปการปกครอง 19 ก.ย. ขณะที่กรณีม็อบหนุนชนม็อบต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นข่าวร้ายน่าเศร้า ให้ฉายา รัฐบาลนามธรรม ส่วนบุคคลแห่งปีที่ได้รับคะแนนมากสุดยังคงเป็น พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน แต่คนส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อมั่นในเสถียรภาพทางการเมือง เศรษฐกิจ และอยากให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาปากท้องประชาชนเป็นของขวัญปีใหม่

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง ข่าวดีข่าวร้ายทางการเมืองและบุคคลแห่งปี 2549 ในทรรศนะของคอการเมือง : กรณีศึกษาประชาชนที่สนใจข่าวการเมือง (คอการเมือง) ใน 17 จังหวัดทั่วประเทศ โดยรวบรวมข้อมูลจากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 4,609 ตัวอย่าง ระยะเวลาดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 13-30 ธันวาคม 2549 ซึ่งผลสำรวจพบว่า ข่าวดีทางด้านการเมืองแห่งปี พ.ศ. 2549 5 อันดับแรก คือ ข่าว พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ประกาศไม่สืบทอดอำนาจ ตามด้วยข่าวการปฏิรูปการปกครองวันที่ 19 กันยายน ข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยประกาศเว้นวรรคทางการเมือง ข่าวแต่งตั้ง พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี และข่าวบทบาทของศาลต่าง ๆ ในการคลี่คลายวิกฤติการเมืองช่วงต้นปี 2549

ส่วนข่าวร้ายน่าเศร้าทางการเมืองแห่งปี 5 อันดับแรก คือ เหตุการณ์ม็อบต้าน ชน ม็อบหนุนรัฐบาลทักษิณ ตามด้วยข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวพาดพิงผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ข่าวบ้านนายกรัฐมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ข่าวความวุ่นวายในการจัดการเลือกตั้งปี 49 หันคูหาออกนอกหน่วย พรรคใหญ่จ้างวานพรรคเล็ก ข่าวการเลี่ยงภาษีของคนใกล้ชิดอดีตนายกรัฐมนตรี และข่าวแทรกแซงสื่อ

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองลงมา เป็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และนายสนธิ ลิ้มทองกุล ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ที่น่าเป็นห่วงคือ ประชาชนได้โหวตฉายาของรัฐบาลชุดปัจจุบันว่า เป็นรัฐบาลนามธรรม รองลงมาคือ รัฐบาลขิงแก่ รัฐบาลปากว่าตาขยิบ รัฐบาลแก่แต่เจ๋ง รัฐบาลเฉพาะกิจ และเป็นรัฐบาลอืดอาด ตามลำดับ

อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาเรื่องปากท้อง และความยากจนให้แก่ประชาชนเป็นของขวัญปีใหม่ รองลงมาคือการแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การตรวจสอบเอาผิดคนที่ทุจริตคอร์รัปชั่น สร้างความสมานฉันท์ในประเทศ แก้ปัญหายาเสพติด และพัฒนาด้านการศึกษา ตามลำดับ แต่เมื่สอบถามประชาชนถึงความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพทางการเมือง หรือความมั่นคงทางการเมืองในอีก 6 เดือนข้างหน้า พบร้อยละ 62.8 ไม่เชื่อมั่น มีเพียงร้อยละ 20.3 ที่เชื่อมั่น เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้า พบว่า ร้อยละ 61.7 ไม่เชื่อมั่น และมีเพียงร้อยละ 22.4 ที่เชื่อมั่น.