ทุกก้าวย่างของ "พี่ชาย" ที่ชื่อ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" ล้วนมีแรงสั่นสะเทือนแทบทุกครั้งต่อ "น้องสาว" ที่ชื่อ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" โดยเฉพาะในวันที่ "น้องสาว" ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีประเทศไทย
"พ.ต.ท.ทักษิณ" ถือเป็นบุคคลที่มีนัยยะทางการเมืองแฝงอยู่หลายมติ ทั้งผ่านการพูดจา การแสดงสีหน้าท่าทาง และสัญลักษณ์แง่มุมต่างๆ
การขยับตัวแสดงบทบาทของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" จึงสะเทือนทุกครั้งตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรี ถูกรัฐประหารหลุดจากอำนาจ หรือการเคลื่อนไหวสารพัดตามที่ต่างๆ ในต่างประเทศ
โดยเฉพาะสะเทือนจากคำพูดของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" เอง ต่างกรรมต่างวาระ
เขาอาจเชื่อว่าการขับเคลื่อนของเขา มีพลังอานุภาพสูง เพราะทำสำเร็จมาแล้วโดยตลอด ทั้งการเขย่ารัฐบาล คมช.จากนอกประเทศ การบริหารจัดการรัฐบาล "สมัคร สุนทรเวช" และ "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" รวมถึงการสั่นคลอนรัฐบาล "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ผ่านความเคลื่อนไหวของมวลชนคนเสื้อแดง
และทรงอานุภาพยิ่ง เมื่อสามารถบัญชาการการเลือกตั้งจากนอกประเทศ จนทำให้ "เพื่อไทย" ชนะการเลือกตั้งได้กลับมาเป็นรัฐบาล และผลักดัน "น้องสาว" หัวแก้วหัวแหวน ขึ้นนั่งตำแหน่งสูงสุดฝ่ายบริหารได้เป็นนายกฯ
แต่อย่าลืมว่าไม่ว่า "พ.ต.ท.ทักษิณ" จะทำใจยอมรับหรือไม่ กับคำพิพากษาศาลในคดีที่ดินรัชดาฯ ที่เขาต้องโทษจำคุก 2 ปี และยังไม่รวมอื่นอีกมากมาย
โจทย์เรื่องความรับผิดชอบทางกฎหมาย ก็ยังเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกสำหรับ "นายใหญ่" เมื่อฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ได้ตั้งคำถามทิ้งไว้ในเรื่องการทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว และหวังนิรโทษกรรมในคดีความต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง
แต่ความเป็นตัวตนของคนที่ชื่อ "ทักษิณ" เขาไม่ลังเลที่จะเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ ให้ปรากฏเป็นข่าว เป็นกระแส ทั้งการจัดตั้ง ครม. ที่เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ยอมรับกับสื่อญี่ปุ่น ว่ามีบทบาทเข้าไปมีส่วนร่วม
ตามมาด้วยกำหนดเยือนญี่ปุ่น จากการได้รับวีซ่าเป็นกรณีพิเศษ ระหว่างวันที่ 22-24 สิงหาคม ซึ่งปรากฏเป็นข่าวอีกว่าเป็นผลจากการผลักกันของ "สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล" รมว.ต่างประเทศ ที่ประสานผ่านทูตญี่ปุ่นให้ช่วยอำนวยความสะดวก
ซึ่ง "พรรคประชาธิปัตย์" คู่แค้นตั้งแท่นเล่นงานทางกฎหมายกับรัฐบาลทันที ยก ม.157 มาขย่ม ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ยอมติดตามตัวกลับรับโทษซ้ำยังอำนวยความสะดวกเรื่องออกวีซ่าให้อีก
เท่านั้นยังไม่พอ กระแสเล็ดลอดมาอีกว่าแผนการเดินทางต่อไปของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" คือ ประเทศกัมพูชา เพื่อช่วยเหลือการเจรจาให้รัฐบาลของน้องสาวเกี่ยวกับการบริหารจัดการร่วมด้านพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล
"พ.ต.ท.ทักษิณ" อาจมั่นใจกับจำนวน ส.ส.เสียงข้างมากในสภา ที่สะท้อนความมั่นคงของฝ่ายบริหาร และลืมไปว่า ยิ่งตัวเขาเคลื่อนไหวทำตัวเป็นข่าวมากเท่าใด ผู้รับเคราะห์และตกเป็นเหยื่อทางการเมือง ก็คือ "น้องสาว" สุดที่รักของเขานั่นเอง
ลำพังก้าวขึ้นเป็นผู้นำฝ่ายบริหาร ก็เผชิญศึกหนักจากการที่ต้องตอบคำถามเชิงการบริหาร และนโยบายอยู่แล้ว ไหนจะมาเจอกับคำถามเชิง "การเมือง" อีก
คงไม่ลืมว่าคำถามเชิง "การเมือง" ที่แท้จริงหาได้เกิดในช่วงหาเสียง แต่เกิดนับตั้งแต่ได้เป็นรัฐบาลแล้ว และพี่ชายล้วนเป็นผู้ก่อให้ทั้งสิ้น
ไม่แปลกที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา หรือสื่อสายการเมือง ที่มีโอกาสติดตามทำข่าวใกล้ชิด "ยิ่งลักษณ์" จะบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ได้รับคำตอบซ้ำๆ เมื่อถามคำถามทางการเมือง หรือเจออาการอ้ำอึ้งไปไม่ถูกของ "ยิ่งลักษณ์" เสมอ เมื่อถูกถามถึง "พี่ชาย" ในเชิงมีบทบาทชักใยบงการเบื้องหลัง
กระทั่งคำถามเชิงเศรษฐกิจล่าสุดกลางทำเนียบรัฐบาลหลังประชุม ครม. เกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อของเอเชีย "ยิ่งลักษณ์" ซึ่งโตมาจากภาคเอกชนยังคลำทางไปต่อไม่ถูก
แผ่นเสียงจึงมักตกร่อง อยู่เพียงคำชี้แจงไม่กี่ประโยค อาทิ "ขอไปดูรายละเอียดก่อน" "ทำเพื่อประโยชน์คนทุกคน" "พ.ต.ท.ทักษิณก็เป็นคนไทยคนหนึ่ง ซึ่งต้องได้รับการปฏิบัติเหมือนกับคนไทยทั่วไป" ฯลฯ
ยิ่งถ้อยแถลงของ "ยิ่งลักษณ์" หลังรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯตำแหน่งนายกฯ ที่ประกาศทำเพื่อส่วนรวมไม่ทำเพื่อคนใดคนหนึ่ง วิบากกรรมของ "น้องปู" จากนี้ไปไม่มีวันจบสิ้น เพราะ "พี่ทักษิณ" พูด แต่ "น้องปู" ต้องชี้แจง-แก้ตัวแทน
วอร์รูมประชาธิปัตย์ประเมินว่า ทุกคำถามทางการเมืองจากนี้ไปจะพุ่งใส่ "ยิ่งลักษณ์" และไม่มีทางที่ "เธอ" จะหลบหลีกได้ อย่างมากคงได้แต่ภาวนาในใจว่า "พี่จ๋าอยู่เฉยๆ บ้างเถอะ" !!
(มติชนรายวัน ฉบับ 18 สิงหาคม 2554 หน้า 11)
′ทักษิณ′ออกโรดโชว์ เพิ่มแรงต้าน-ขยายฐานยี้ปู1
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ′ทักษิณ′ออกโรดโชว์ เพิ่มแรงต้าน-ขยายฐานยี้ปู1