ยิ่งลักษณ์ยันเลือกรมต.ทั้งหมดด้วยตัวเอง

นายกฯระบุเลือกรมต.ทั้ง 35ที่นั่ง ด้วยตัวเอง เพราะต้องทำงานด้วยกัน โบ้ยเรื่องวีซ่า "ทักษิณ" เป็นเรื่องของญี่ปุ่น

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในรายการ "เรื่องเด่นเย็นนี้" ทางสถานีโทรทัศน์ช่องสาม  โดยกล่าวว่าแม้ว่าตั้งแต่เข้ามาจะโดนโจมตีหลายเรื่องโดยเฉพาะกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  แต่เราต้องอดทนเพราะมีหน้าที่ชี้แจง และเชื่อว่าคนฟังก็มีวิจารณญานตัดสิน โดยตนจะวางตัวและทำหน้าที่เพื่อประชาชนและงส่วนรวม ไม่ทำเพื่อพี่ชายหรือเพื่อคนใดคนหนึ่ง  โดยกรณีที่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเป็นกระบวนการ โดยตนจะไม่เข้าไปเกี่ยวหรือแทรกแซงและทำบนความยุติธรรม   ประชาชนเลือกเรามาเราต้องทำเพื่อประชาชน ปากท้องต้องการการแก้ไข

 น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ชี้แจงกรณีวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า

  เท่าที่ทราบคือทางเอกชนที่ญี่ปุ่นเรียนเชิญไปบรรยายก่อนที่ตนจะมาเป็นรัฐบาล  ส่วนการอนุญาติทางการทูตก็เป็นเรื่องของญี่ปุ่น ไม่มีใครแทรกแซงได้ นอกจากนี้ทางญี่ปุ่นก็ได้มาถามนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รมวต่างประเทศ ซึ่งก็ตอบไปว่าเราไม่มีนโยบายกีดกัน ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการของทางญี่ปุ่น ส่วนการติดตาม พ.ต.ท.ทักษิณมาดำเนินคดีรัฐบาลชุดนี้ก็จะเป็นเรื่องที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการไม่เข้าไปแทรกแซง 

 ผู้ดำเนินรายการถามว่าทำไม รมว.ต่างประเทศต้องเป็นนายสุรพงษ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า

อย่าไปดูที่หน้าตาหรือประวัติ ต้องดูที่คุณสมบัติ กระทรวงการต่างประเทศนั้นต้องเข้าใจธรรมเนียมทางการทูต ซึ่งมีข้าราชดูแลอยู่แล้ว แต่ที่สำคัญคือนายสุรพงษ์เคยผ่านงานบริษัทระดับสากล และเข้าใจการติดต่อกับต่างประเทศเป็นอย่าดี มีความมุ่งมั่น รวมทั้งเป็นดอกเตอร์  จึงเชื่อว่าทำงานได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีเรื่องการค้า ที่ต้องใช้คนที่เจรจาได้ดี มีความเข้าใจทางการค้า ซึ่งนายสุรพงษ์ ก็มีความรู้เรื่องธุรกิจมาก่อน  ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้เลือกเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ  การคัดเลือกทุกอย่างเป็นการหารือภายในคณะกรรมการ เรามองที่ผลงานและอยากให้โอกาส รมต. แต่ละคน 

 "เราเลือก รมต. ทั้ง 35 ที่นั่ง เลือกเองทั้งหมด เพราะต้องทำงานด้วยกัน" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว 

เมื่อถามว่าพอใจกับ ครม. กี่เปอร์เซนต์ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า  มองว่า 70%  ส่วนที่ยังไม่ได้ดังใจอีก  30%
 
เพราะบางคนอาจจะเป็นหน้าใหม่ แต่เราเชื่อมั่นใน คุณสมบัติเบื้องต้น ที่คัดเลือกจากความรู้ความสามารถ และความรู้เฉพาะตัว แต่อาจจะขาดเรื่องประสบการณ์เท่านั้นเช่น รมว.ต่างประเทศ  เป็นต้น

เมื่อถามว่าในขั้นตอนการตั้ว ครม. มีรายชื่อคนนอกเป็นจำนวนมาก แต่เหตุใดเหลือแค่ 4 คนเท่านั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า รายชื่อคนนอกที่ออกมานั้นมาจากการพูดคุย และเป็นแค่ตามข่าวมากกว่า  อาจจะไม่ใช่ชื่อที่เราเชิญมา นอกจากนี้หากมองสัดส่วนคนนอกใน ครม. ที่ผ่านๆมา ชุดของเราถือว่ามีมาเยอะ บางรัฐบาลมีแค่ 2-3 คนเท่านั้น

ต่อเรื่องที่ไม่มีคนเสื้อแดงเป็น รมต. น้้่น น.ส.ยิ่งลักษณ์ชี้แจงว่า   ไม่ได้เหมายความว่าคนเสื้อแดงไม่มีความรู้ความสามารถ
 
แต่การดูแลต้องมีหลายด้าน มีทั้งงานบริหาร งานสภา งานพื้นที่ เราไม่ได้ตั้งใจไม่ให้คนเสื้อแดงอยู่ แต่อยู่ที่ความเหมาะสม และอยากเห็นบรรยากาศการปรองดอง ส่วนเรื่องการน้อยใจนั้นตนเชื่อว่าคนเสื้อแดงเป็นผู้มีอุดมการณ์และอยากเห็นประเทศเดินไปข้างหน้า

 "กรณีนายณัฐวุฒิ (ใสยเกื้อ) ส่วนตัวมองว่ามีความสามารถแต่คุณณฐวุฒิ ก็ต้องช่วยในส่วนสภา และความประสงค์ที่จะเข้าไปทำงานในพื้นที่เป็นความลงตัวไม่ติดใจกัน คุณณัฐวุฒิก็เป็นคนเก่ง การเลือก ครม.ยากมาก เพราะทุกคนมีคามสามารถ การเลือกบางครั้งก็อาจจะถูกใจและไม่ถูกใจ เรามองเรื่องกระทรวงเป็นหลัก ว่าช่วงนี้เราต้องการใครมาทำงานในเบื้องต้น เราต้องการคนที่มาก่อตั้งในการทำโครงร่างนโยบาย ซึ่งก็เหมือนกับการบริหารธุรกิจ เริ่มต้นต้องการแบบหนึ่ง อยู่ตัวแล้วอาจจะต้องการอีกแบบหนึ่ง ซึ่งอาจจะปรับ ครม. ในอนาคต" น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว  
 
ขณะที่เรื่องนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภานั้น  น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า  ทุกนโยบายที่หาเสียงจะบรรจุเอาไว้ในนโยบายที่จะแถลงต่อสภา  แต่เรื่องการดำเนินบางโครงการนั้นอาจจมีปัญหา เพราะงบประมาณที่จะทำเพื่อนโยบายใหม่นั้น กว่าจะใช้ได้ก็ประมาณเดือน ก.พ.

สำหรับนโยบายขึ้นค่าแรง 300 บาท ต้องมีการเจรจากับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และอยากเห็นนโยบายนี้ในกทม. และปริมณฑล เกิดขึ้นช่วง เดือน ม.ค. 2555 แต่ก็ต้องดูความพร้อม ทั้งนี้ไม่อยากพูดไปก่อนเพราะจะมีผลกระทบ  ส่วนเรื่องเงินเดือน ปริญญาตรี 15,000 บาท  แนั้นภาคราชการทำได้แต่ ส่วนเอกชนก็ต้องดูความพร้อม"น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว

 ต่อข้อถามที่ว่าจะขอพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า  ตั้งใจว่าถ้าให้โอกาสก็จะไปและไปขอคำแนะนำและหารือเพราะท่านก็เป็นผู้ใหญ่  ว่ามีอะไรที่จะให้คำแนะนำบ้างทุกความเห็นเรายินดีจะรับฟัง

 ส่วนเรื่องจุดอ่อนของ รัฐบาลนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์มองว่า คือความเข้าใจ เพราะเราทำเพื่อทุกสี ทุกเพศทุกวัย ดังนั้นขอให้โอกาสรัฐบาลด้วยจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด และตนไม่เบื่อกับการชี้แจง