ปชป.ชี้ไฮไลต์คอรัปชั่นปี 50 !แนะจับตากระบวนการ-โค่นแก๊งการเมือง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 ธันวาคม 2549 16:04 น.

เห็นเป็นรูปธรรมที่เด่นชัด เริ่มตั้งแต่การชี้มูลความผิดของคตส.-ป.ป.ช. จนนำมาซึ่งการยึดทรัพย์แก๊งการเมือง ขณะที่ไฮไลต์ในช่วงปลายปีจะถูกพุ่งเป้าที่ไปศาลฏีกาแผนกคดีอาญาฯ

ตั้งแต่ยุคพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จนกระทั่งถูกยึดอำนาจว่า ในช่วงแรกของปี 49 นั้นอยู่ในภาวะที่เลวร้าย และมีผลทำให้ประเทศไทยถูกจัดอันดับลดลงในแง่ความโปร่งใส ทำให้ส่งผลถึงขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ส่วนในช่วงหลังของปี 2549 สถานการณ์เริ่มมีความหวังมากขึ้นในการปราบปรามการทุจริตหลังการทำรัฐประหาร และการแก้ปัญหาคอรัปชั่นเริ่มเห็นผลมากขึ้น ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2549 โดยการดำเนินการของ คตส.ใน 13 คดี ซึ่งการมีการกล่าวโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.คมนาคม ในกรณีการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด CTX และการกล่าวโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ กรณีการซื้อที่ดินจากกองทุนฟื้นฟูของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร

ในคดีที่คุณหญิงพจมาน โอนหุ้นชินคอร์ปฯ ให้กับนายบรรณพจน์ ดามาพงษ์ พี่ชาย ผ่านคนรับใช้ รวมไปถึงกรณีที่กระทรวงการคลัง มีมติไล่ออกอธิบดีกรมสรรพกร กรณีไม่เก็บภาษีจ่ากการโอนหุ้นดังกล่าว นอกจากนั้น คตส. ยังได้ดำเนินการออกประกาศให้สินบนผู้แจ้งเบาะแสการทุจริต 25 เปอร์เซ็นต์

นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ทำให้สถานการณ์ความเคลื่อนไหวปัญหาคอรัปชั่นในปี 2549 นั้นกระเตื้องขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สำหรับแนวโนมปี 2550 จะมีแนวโน้มที่สดใสมากขึ้นในการป้องกันและปราบปรามคอรัปชันหรือการสะสางคดีทุจริตต่างๆ ของระบอบทักษิณ

1. การดำเนินคดีของ คตส. 13 คดี จะมีการชี้มูลความผิดภายในไตรมาสแรกของปี 2550

2.การกล่าวหาผู้กระทำผิดและการแก้ข้อกล่าวหาใน 13 คดีเป็นอย่างน้อยของ คตส.และป.ป.ช.จะทำให้บทบาทของสำนักงานอัยการสูงสุดและศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมือง จะเป็นไฮไลต์ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2550 อย่างชัดเจน

3. การยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ และบุคคลที่เกี่ยวข้อก็จะเป็นไฮไลต์ที่เกิดขึ้นในครึ่งปีแรกของปี 2550 , 4.ส่งผลถึงการกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อแก้ข้อกล่าวหาของคดีต่างๆ 5.ทำให้เกิดวิกฤตทางการเมืองจากกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย 6. คสต.และ คมช.จะดำเนินการสะสางในคดีอื่นอย่างน้อย 27 คดีที่ยังไม่มีเจ้าภาพ จะทำให้ความสนใจของสาธารณชนที่มีต่อปัญหาคอรัปชั่นนั้นจะมีการตื่นตัวมากขึ้น