ผบ.ทบ.ยันไม่เลือกคนนั่งกลาโหม

"ประยุทธ์"สั่งเฝ้าระวังพวกมอดไม้ ยันไม่เลือกนายนั่งกลาโหม ยอ"มาดามปู"ดูดี เตรียมเจรจา"ฮุนเซ็น"ประชุมอาร์บีซี ปลายส.ค.นี้

วันนี้ (9 ส.ค.) ที่สโมสรทหารบกวิภาวดี  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในการจัดพิธี และกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 79 พรรษา ในวันที่ 12 ส.ค.โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต ผบ.ทบ. พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1  และนายทหารระดับสูงของกองทัพบกเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นอกจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้นำประชาชนทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมจุดเทียนชัยเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนา
    
โดยภายหลังพล.อ.ประยุทธ์  ได้กล่าวว่า พระราชินีทรงเป็นห่วงป่ามาก และมีรับสั่งมาเป็นเวลา 60 ปีแล้ว ตั้งแต่ครองราชย์ว่า

 อนาคตประชาชนทั่วโลกจะขาดแคลนน้ำ และอาหาร ท่านจึงทรงให้ความสนใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ทั้งอาชีพ อาหาร ซึ่งท่านทรงรับสั่งว่า ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตอาหารของโลก ซึ่งท่านมีโครงการธนาคารอาหาร ตามหมู่บ้านต่างๆ ประชาชนสามารถหาอาหารได้ตามป่าเขาและไม่ทำลายป่า ประชาชนทุกคนต้องมีการเฝ้าระวัง ไม่ให้ใครเข้ามาบุกรุกทำลายป่า เช่น ไม้พยุง ซึ่งมีการตัดเป็นจำนวนมาก เราจะให้มีมาตรการที่เข้มงวด หากใครลักลอบตัดมาแล้วหวังว่าจะมาซื้อคืน ก็ทำไม่ได้ แต่จะเก็บเอาไว้เป็นสมบัติของชาติต่อไป 

“ไม้พยุงยังเป็นความต้องการของต่างชาติ และไม้พยุงในบ้านเราก็มีคุณภาพดีที่สุด ขอให้ช่วยกันรักษา ส่วนการจัดการกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลนั้น ทุกคนทราบดีว่าใครมีอิทธิพล ก็ต้องแก้กันไป โดยเริ่มจากเจ้าหน้าที่ที่มีความรับผิดชอบตามกฎหมายก่อน ส่วนประชาชนต้องเฝ้าระวังและแจ้งข้อมูล และต้องกล้าที่จะแจ้งความ” พล.อ.ประยุทธ์  กล่าว และเปิดเผยต่อไปอีกว่า สำหรับปัญหาบุกรุกพื้นที่วังน้ำเขียว  กองทัพดูอยู่แล้วตามเอ็มโอยู เพียงแต่เราจะไม่ขัดแย้งกับชาวบ้านโดยตรง เพราะเป็นหน้าที่ของทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้จะมีการทำความเข้าใจ เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน จะใช้ความรุนแรงไม่ได้ แต่ต้องขอร้องว่าให้ดูข้อกฎหมายให้ดี และให้ความเป็นธรรมซึ่งกันและกัน คนไทยด้วยกันพูดกันรู้เรื่อง ทะเลาะเบาะแว้งกันไม่ได้อยู่แล้ว 

พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 

ได้รับการโปรดเกล้าฯเป็นนายกรัฐมนตรีว่า ก็ดูดี พูดจาอะไรก็เป็นหลักเป็นฐาน ต้องรอให้ท่านทำงาน และท่านคงเรียกตนไปชี้แจงว่า งานที่กองทัพบก ทำมีอะไรบ้าง ซึ่งตนเตรียมข้อมูลไว้แล้ว ว่าจะนำเรียนท่านอย่างไร ทุกอย่างทำไปตามกฎหมาย ไม่ได้ทำด้วยตัวเอง คิดว่า ท่านคงเข้าใจ ผู้หญิงผู้ชาย ทั้งโลกก็เก่งเท่ากัน เมื่อถามว่า ถ้าเขาทำงานไม่เข้าตาจะต้องพูดคุยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า “ใครไม่เข้าตาใคร ผมไม่เข้าตาเขามากกว่ามั้ง” 

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการคาดว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ รู้แล้วหรือว่าเป็นใคร ตนยังไม่รู้เลย อย่างไรก็ตามพล.อ.ยุทธศักดิ์ ท่านเป็นอดีต ผู้บังคับบัญชาอยู่แล้ว เราทำงานกันด้วยระบบ ระเบียบ กฎหมาย เรื่องตัวบุคคลเป็นเรื่องที่สอง ซึ่งตนเคยสอนผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่เสมอว่า เราเลือกผู้บังคับบัญชาไม่ได้ แต่ผู้บังคับบัญชาเลือกเราได้ ดังนั้นเราต้องทำตัวให้มีประโยชน์ ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรผิด ผู้บังคับบัญชาก็ต้องใช้เรา ทั้งนี้คิดว่า การที่ท่านเป็นทหารน่าจะเข้าใจกองทัพมากกว่าคนที่ไม่ใช่ทหาร                    
     
ในส่วนกรณีที่ ประเทศกัมพูชารับสมัครทหารเพิ่มเติม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ กล่าวว่า

 เป็นเรื่องที่เขาจะมีการปรับปรุงกองทัพ ก็ต้องลดกำลังบางส่วนออกให้เล็กลง และเอาทหารที่คุณภาพ อายุน้อยเข้ามา ซึ่งไม่ได้เป็นนัยยะอะไร ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา อย่างของเราเกณฑ์ทหารปีละ8หมื่น อันนี้ก็เช่นเดียวกัน ส่วนความคืบหน้าในการประชุมคณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาคไทย-กัมพูชา (อาร์บีซี) คงต้องพูดคุยกันว่า ที่จะให้มีผู้สังเกตการณ์เข้ามาจะอยู่กันอย่างไร มาอย่างไร รวมทั้งมาตรการ การถอนทหารตามมาตรการคุ้มครองชั่วคราวจะทำกันอย่างไร และทั้งหมดนี้ต้องนำเรียนคณะรัฐมนตรี ( ครม.) เพราะบางอย่างที่เข้ากติกามาตรา 190 ก็ต้องว่ากัน 

ทั้งนี้มีการรายงานว่า จะจัดการประชุมอาร์บีซีประมาณวันที่ 20  ส.ค.หรือปลายเดือนนี้ ซึ่งตนกำชับว่า ให้มีการประชุมเร็วที่สุด อย่างน้อยเป็นการเปิดช่องทางพูดคุยกัน เพราะที่ผ่านมาคุยกันไม่ได้ และตนทราบว่าทางสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็ตอบรับมา ตนจึงได้ย้ำกับกองทัพภาคที่ 2 ว่า ทำตามกติกา คือ ฟังว่าเขาต้องการอะไร ถ้าจะลดทหารจะลดอย่างไร และนำความทั้งหมดมานำเรียนรัฐบาลให้ตัดสินใจ