พันธมิตรฯ ลั่นชัยชนะพลังอหิงสา - พร้อมติดคุกท้า ภาวะฉุกเฉิน
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 14 มีนาคม 2549 23:16 น.
พันธมิตรฯ ประกาศชัยชนะมหาชนสร้างประวัติศาสตร์ด้วยพลังอหิงสา-สงบ เคลื่อนขบวนเรือนแสนโดยไม่เสียเลือดเนื้อ จำลอง ชี้รัฐบาลไม่มีความชอบธรรมในการประกาศภาวะฉุกเฉิน นอกจากสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวาย ลั่นถ้าประกาศจริงพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คนจะยอมติดคุกทันที ด้าน สนธิ วิเคราะห์นัยถอยอำพรางรุก เชิด ชิดชัย รักษาการรองนายกฯ คุมอำนาจความมั่นคงบังหน้า ทั้งที่ ทักษิณ ยังบงการอยู่ข้างหลัง
วันนี้ (14 มี.ค.) เมื่อเวลา 21.50 น. กรรมการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั้ง 5 คนที่มีอำนาจตัดสินใจสูงสุด อันประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ได้ขึ้นเวทีที่หน้าทำเนียบรัฐบาล
พล.ต.จำลองได้ประกาศถึงความสำเร็จของพลังประชาชนนับแสนๆ คนที่เคลื่อนขบวนจากท้องสนามหลวงมาที่ทำเนียบรัฐบาลโดยไม่มีการเสียเลือดเนื้อหรือเกิดความรุนแรงใดๆ เพราะเป็นการเคลื่อนขบวนโดยสงบ ซึ่งเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ร่วมกันอย่างน่าภาคภูมิใจ
คลิกที่นี่เพื่อชมวิดีโอคลิป จำลอง ปราศรัย(56k) | (256K)
พล.ต.จำลอง ยังวิเคราะห์ถึงโอกาสที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินว่า ในสถานการณ์การชุมนุมโดยสงบอย่างนี้ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอ และยิ่งการอ้างปัญหาจราจรติดขัดก็ยิ่งไม่สมเหตุสมผล เพราะถ้าประกาศภาวะฉุกเฉินโดยใช้เหตุผลในเรื่องดังกล่าวรัฐบาลก็สมควรประกาศมาตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคมแล้ว ซึ่งเป็นวันที่มีการชุมนุมเพื่อสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม พล.ต.จำลอง เห็นว่า หากรัฐบาลจะมีความพยามประกาศภาวะฉุกเฉินจริงก็สามารถทำได้หากมีการสร้างสถานการณ์ โดยเฉพาะการแต่งตั้ง พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ เป็นรักษาการรองนายกฯคนที่หนึ่งดูแลด้านความมั่นคงอย่างเบ็ดเสร็จ
พล.ต.จำลอง ได้ประกาศว่า หากมีการประกาศภาวะฉุกเฉินจริง กรรมการพันธมิตรประชาชนฯทั้ง 5 คนยอมติดคุกทันที และเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการตามกฎหมายกับพวกเขาทั้ง 5 คนได้อย่างเต็มที่
นายสนธิ ได้วิเคราะห์สถานการณ์ในขณะนี้ โดยพิจารณาจากการตั้ง พล.ต.อ.ชิดชัยจากรองนายกฯอันดันที่ 3 มาเป็นรองนายกฯอันดับที่ 1 ดูแลด้านความมั่นคงอย่างเบ็ดเสร็จว่า มีนัยยะคือเป็นการเตรียมตัวเพื่อสำหรับรุกหรือถอยก็ได้ ใช้ยุทธวิธีแบบงูกระดิ่ง ที่อำพรางให้คนเข้าใจมุ่งไปที่ พล.ต.อ.ชิดชัย แต่คนที่บงการคือตัว พ.ต.ท.ทักษิณ นั่นเอง
นายสนธิ ได้กล่าวให้ประชาชนร่วมภาคภูมิใจกับการร่วมสร้างประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งจากภาพดังกล่าวได้สร้างความตกตะลึงให้กับคนสองกลุ่ม โดยกลุ่มแรกคือกลุ่มคนที่ไม่เคยรับรู้ถึงการชุมนุม ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มคนในพรรคไทยรักไทยที่ไม่คิดว่าจะมีคนเข้าร่วมมากมายขนาดนี้
เหตุการณ์ครั้งนี้ที่แน่ๆ ทำให้คุณหญิงพจมาน (ชินวัตร) และลูกๆ ต่างถอดใจกันไปหมดแล้วมีเพียงนายกฯเท่านั้นที่ยังฟัง 4 ขันทีและ 1 ขันทวย นายสนธิ ระบุ และว่าที่ผ่านมากว่าจะมาถึงวันนี้รัฐบาลยังมีความพยายามทำลายความชอบธรรมตลอด ไม่ว่าจะส่งคนมาเจรจาหรือติดต่อผ่านคนอื่นให้มาช่วยเจรจาแต่ได้รับการปฏิเสธกลับไป
ในตอนท้าย นายสนธิได้เรียกร้องให้พี่น้องประชาชนอดทนอีกสักนิดอดทนกับอากาศร้อนเพื่อนดับร้อนแห่งแผ่นดิน
ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ เคยกล่าวหาว่าพวกเรา(ผู้ชุมนุม) เป็นพวกจรจัดหรือพวกกุ๊ยข้างถนน แต่เวลานี้ นายกฯ เป็นพวกจรจัดแล้ว ทำเนียบฯ มีแต่ไม่อยู่ ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ นายสนธิ กล่าว