คนเด่นข่าวโลกปี49

ในกลุ่มผู้นำประเทศ ญี่ปุ่นถ่ายโอนอำนาจอย่างราบรื่นจากนายจุนอิชิโร่ โคอิซึมิ ไปถึง นายชินโซ่ อาเบะ นักการเมืองสายเหยี่ยวที่ได้รับความนิยมจากชาวอาทิตย์อุทัย ผิดกับเมืองไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เด้งออกจากตำแหน่งขณะเป็นผู้แทนประเทศไปประชุมสหประชาชาติที่นิวยอร์ก ส่วน กษัตริย์ คยาเนนทราของเนปาล ทรงต้องหลุดพ้นจากวงจรการเมืองไปอย่างสิ้นเชิง จากการผนึกกำลังของนัก การเมืองและประชาชน

เก่าไปใหม่มาตำแหน่งสำคัญ คือนายโคฟี่ อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติชาวกานาถึงวาระต้องไป ผู้ชิงชัยตำแหน่งดังกล่าวได้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศจากเกาหลีใต้ นายบัน คี มุน

ที่ยุโรป มหาเศรษฐีเจ้าพ่อวงการสื่อ ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี พ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งให้แก่นายโรมาโน โพรดี ซึ่งนำอิตาลีถอยห่างจากการเข้าร่วมศึกอิรัก

ส่วนโปแลนด์ มีผู้นำฝาแฝดจากตระกูลคักซินสกี ทั้งสองเคยมีผลงานแสดงหนังร่วมกันจนเป็นที่คุ้นตาชาวโปแลนด์ตั้งแต่เด็กๆ ผู้พี่เป็นประธานาธิบดี ส่วนคนน้องนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

ปีนี้ยังเป็นปีที่ผู้หญิงได้ขึ้นเป็นผู้นำประเทศอีก 3 คน คือนางมิเชล บาเชอเล็ตของชิลี นางเอลเลน จอห์นสัน เซอร์ลีฟ ของไลบีเรีย และนางฮัน เมียงซุก เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเกาหลีใต้

ด้านผู้นำที่โดนโรคภัยไข้เจ็บเล่นงานจนไม่ได้สติคือนายเอเรียล ชารอน แห่งอิสราเอล ซึ่งไม่ฟื้นมาตลอดปีนี้และทำท่าจะไม่ฟื้นตลอดไป ทำให้นายเอลฮุด โอลเมิร์ต ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแทน

ขณะที่พล.อ.ฟิเดล คาสโตร แห่งคิวบาวัย 80 ปีเข้ารับการผ่าตัดลำไส้ตั้งแต่ช่วงกลางปี โดยทิ้งอำนาจไว้ให้นายราอูล น้องชายวัย 75 ปี ดูแลแทน

เผด็จการโลกถึงวาระสุดท้ายในป นี้ คือนายสโลโบดัน มิโลเซวิช แห่งยูโกสลาเวียที่จบชีวิตในเรือนจำ ส่วนพล.อ.ออกุสโต ปิโนเชต์ แห่งชิลีลาโลก ไปในขณะอายุ 91 ปีโดยไม่ทันถูกนำตัวขึ้นศาลในคดีละเมิดสิทธิมนุษยชน ผิดกับ ซัดดัม ฮุสเซนของอิรักถูกเช็คบิลคดีบงการฆ่าชาวอิรักนิกายชีอะห์ โทษทัณฑ์ถึงประหาร

ช่วงท้ายปลายปี นายพลโบเมียะ แห่งกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยงคริสต์ หรือเคเอ็นยู ปิดฉากการต่อสู้กับกองทัพพม่าด้วยวัย 79 ปี ด้านอดีตประธานาธิบดีเจอรัลด์ ฟอร์ด ของสหรัฐอเมริกา อายุยืนมาถึง 93 ปีก็ถึงวาระสิ้นลม