แนะขุนคลังใหม่รักษาวินัยการคลัง

"กรณ์"แนะขาดดุลงบประมาณปี55 ต้องไม่เกิน3.5แสนล้าน หวั่นกระทบเงินเฟ้อ ห่วงพักหนี้ครัวเรือน-จำนำข้าวถลุงมหาศาล

วันนี้ (26ก.ค.) นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้ฝากการบริหารเศรษฐกิจให้รัฐบาลใหม่ โดยต้องให้ความสำคัญด้านนโยบายการคลังและการเงินสอดคล้องกัน โดยเฉพาะการใช้เงินงบประมาณ แม้จะเข้ามารื้องบประมาณปี 55 ใหม่ได้ แต่ต้องระมัดระวังการใช้เงินโดยไม่กดดันเงินเฟ้อให้เร่งตัวขึ้น ซึ่งการกำหนดกรอบขาดดุลไว้ที่ 350,000 ล้านบาทนั้น เพราะธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองว่าเป็นระดับที่เหมาะสม ไม่กระทบภาวะเงินเฟ้อ สอดคล้องกับที่กระทรวงการคลัง ต้องการลดการขาดดุลลงและเดินไปสู่งบสมดุลตามกรอบ 5 ปี

“แม้ขณะนี้แนวโน้มรายได้ปีงบฯ 55 จะเพิ่มขึ้นจาก 1.9 ล้านล้านบาท เป็น 2 ล้านล้านบาท ทำให้รัฐบาลมีวงเงินเพื่อใช้จ่ายตามนโยบายที่ประกาศไว้อีก 100,000 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ควรยึดการขาดดุลเท่าเดิมที่ 350,000 ล้านบาท และต้องคำนึงถึงมาตรการที่จะตามมา ทั้งการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล การลดหย่อนภาษีรถยนต์คันแรก ที่จะนำมาสู่รายได้ที่ลดลงในอนาคตด้วย หวังว่ารัฐบาลจะไม่กู้เงินตามที่ประกาศไว้และรักษาวินัยทางคลังไว้ได้ต่อเนื่อง”

อย่างไรก็ตาม ยังเป็นห่วงบางมาตรการที่จะนำมาสู่ผลในทางลบมากกว่าผลบวก โดยเฉพาะการพักหนี้ครัวเรือนไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะให้กลุ่มใดบ้าง หากให้ประชาชนทุกคน หมายถึงหนี้ของประชาชนที่มีกับสถาบันการเงินทุกแห่ง นับเป็นวงเงินมหาศาล  เฉพาะธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แห่งเดียว ก็คิดเป็น 70% ของลูกค้าทั้งหมด หากรัฐต้องชดเชยดอกเบี้ยให้ที่ 8% ต่อปี จะคิดเป็นเงินปีละ 32,000 ล้านบาท และยังมีผลต่อวินัยในการก่อหนี้ ดังนั้นต้องตอบคำถามของสังคมในการนำเงินภาษีมาใช้จ่ายด้วย

รวมทั้งนโยบายจำนำข้าว ที่เห็นว่าขณะนี้เริ่มมีผลกระทบแล้ว ทั้งการกักตุนสินค้า ราคาข้าวที่ปรับสูงขึ้น  ซึ่งนอกจากผลประโยชน์จะตกกับพ่อค้าคนกลางและโรงสีแล้ว ยังต้องใช้งบมากถึงปีละ 400,000 ล้านบาทในการรับซื้อข้าวราคาสูงกว่าตลาด 60-70% ส่งผลให้ข้าวสารปรับราคาตามไปด้วย จึงฝากให้รัฐบาลดูอุดช่องโหว่ ป้องกันการทำกำไรของพ่อค้าคนกลางด้วย

ส่วนนโยบายการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาทนั้นเห็นด้วย แต่ต้องมีมาตรการเยียวยาดูแลผู้ประกอบการรายเล็กที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นด้วย รวมทั้งการปรับฐานเงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท จะมีผลให้องค์กรหรือหน่วยงานมีภาระเพิ่มขึ้น รัฐบาลต้องดูแลผลกระทบที่จะตามมาด้วย

นายกรณ์ กล่าวว่า สำหรับรมว.คลังคนใหม่นี้ ต้องมีความรู้ความสามารถด้านการเงินการคลังเป็นอย่างดี ประชาชนต้องมั่นใจได้ว่าพึ่งพาได้ และต้องมีความสุจริต พูดความจริง พร้อมจะปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ กล้าคัดค้านสิ่งที่ไม่ถูกต้อง