กองทัพ ต้องเดินด้วยท้อง คมช.แจงละเอียดยิบงบฯ 555 ล้าน

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าววันนี้ (28 ธ.ค.) ถึงกรณีมติคณะรัฐมนตรี ( ครม.) อนุมัติงบประมาณ 555 ล้านบาท เพื่อใช้ในกิจการของศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ คมช. และกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ว่า หน้าที่หลักของคมช.นอกจากการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ คือการคัดเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) 100 คน

และรับสนองพระราชโองการต่างๆ แล้ว ภารกิจหลักคือการรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อให้กลไกล ในภาคนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการสามารถกลับคืนมาได้ ดังนั้นเมื่อภารกิจหลักจำเป็นต้องเตรียมกำลังในส่วนนี้ เพียง 1 ใน 3 เพื่อให้หมุนเวียนกำลังคนในการปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

555 ล้านบาท เป็นค่าอาหารของกำลังพลทั้งหมด กำลังพล 1 ใน 3 รวมยอดแล้ว 11,575 คน เมื่อรวมทั้ง 3ส่วนทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ตำรวจแล้ว รวมทั้งสิ้น 13,625 คน ปฏิบัติภารกิจตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2549 จนกระทั้งถึง 30 กันยายน 2550 อัตราค่าอาหารจำเป็นต้องดูแลทั้ง 3 มื้อ หัวละ 120 บาทต่อคนต่อวัน คูณ 305 วัน เป็นจำนวนเงินกว่า 498 ล้านบาทแล้ว เป็นค่าอาหารเท่านั้น โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ที่เหลืออีกนิดหน่อย เป็นค่าจัดตั้งกองบัญชาการควบคุม เพื่อติดตามควบคุมทั้ง 13 กองบัญชาการประมาณ 1 ล้านบาท ส่วนงบฯ อีก 55 ล้านบาท ใช้ในศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ คมช.ที่จัดตั้งมาตั้งแต่เดือนตุลาคมแล้ว มีหน้าที่อำนวยการ ประสานงาน กำกับดูแลเรื่องงานการข่าว ติดต่อกับหน่วยกำลังในพื้นที่ และมีภารกิจในงานประชาสัมพันธ์ กำลังพลที่ใช้ในศูนย์ปฏิบัติการพิเศษฯ นี้ 350 กว่าคน

ระยะในการปฏิบัติภารกิจประมาณ 365 วัน ซึ่งกำลังพลต้องทำงานเกินกว่าปกติ ในวันธรรมดาจะจบภารกิจประมาณ 22.00-23.00 น. แต่ตามระเบียบสามารถเบิกค่าล่วงเวลาให้ได้แค่วันละ 4 ชั่วโมง หากวันหยุดได้ 7 ชั่วโมง

ส่วนอัตราค่าล่วงเวลาวันหยุด ชั่วโมงละ 60 บาท วันธรรมดาชั่วโมงละ 50 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นก็ประมาณ 35 ล้านบาท เหลือ 20 ล้านบาท ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษฯ ใช้ในภารกิจอำนวยการ ติดตาม ประสานงาน ด้านงานข่าว ประสานกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อให้เกิดความมั่นคง ติดตามการเคลื่อนไหวต่างๆ

ข้อมูที่มีคุณภาพจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ