จาก มติชนสุดสัปดาห์
ชัยชนะในการเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม 2554 ของพรรคเพื่อไทย
แม้ส่วนหนึ่งจะมาจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะ "สินค้าใหม่"
แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้เด็ดขาด ก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
พ.ต.ท.ทักษิณ คือจุดแข็งสูงสุดของพรรคเพื่อไทย
ขณะเดียวกัน สัจธรรมของสรรพสิ่งทุกอย่าง จะต้องมี 2 ด้านเสมอ
มีมืด ก็ย่อม มีสว่าง มีร้อน ก็ต้อง มีเย็น
และ มีแข็ง ก็ต้อง มีอ่อน
แน่นอนเมื่อพรรคเพื่อไทยมี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นจุดแข็ง
พรรคเพื่อไทยก็มี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นจุดอ่อนด้วยเช่นกัน
อย่างน้อยที่สุดขณะนี้ ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังไม่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็เพราะถูกร้องเรียน ในประเด็น "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ"
ซึ่งเกี่ยวโยงถึง พ.ต.ท.ทักษิณ โดยตรงนั่นเอง
เพราะฝ่ายร้องเรียน อ้างว่า เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ก็ไม่น่าจะเข้ามามีบทบาทในการชี้นำพรรคการเมือง การที่เข้ามาก้าวก่ายถือเป็นการกระทำผิดรัฐธรรมนูญ
เรื่องนี้เป็นภาระที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะต้องรีบเคลียร์เพื่อให้พ้นข้อหาโดยเร็ว
เนื่องจากอาจจะมีผลต่อการโหวตขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้
หากปล่อยเรื่องนี้ยืดเยื้อออกไปอาจเกิดเหตุแทรกซ้อนที่ไม่คาดฝันได้
ต้องไม่ลืมว่า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ในฐานะตัวแทนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ได้ใช้ประเด็น "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ" วางเป็น "ทุ่นระเบิด" เอาไว้ด้วย
โดย พล.ต.จำลอง เสนอ กกต. ให้ยุบพรรคเพื่อไทย และสั่งให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ โดยอ้างว่านอกเหนือจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามายุ่งเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยแล้ว ยังมีประชาชน 2 ล้านกว่าถูกทำให้เสียสิทธิจากระบบการเลือกตั้งล่วงหน้า รวมถึงการที่พรรคเพื่อไทยโฆษณาหาเสียงด้วยนโยบายประชานิยม ที่ลดแลกแจกแถม ถือเป็น "สัญญาว่าจะให้" ซึ่งขัดกับกฎหมายเลือกตั้ง
เรื่องนี้แจ่มชัดว่าเป็นเกมการเมือง ที่แสวงหา "เงื่อนไข" เพื่อเตะตัดขาพรรคเพื่อไทย
ซึ่งคงมองข้าม โดยไม่ใส่ใจไม่ได้
เพราะถึงนาทีนี้ก็ยังมีบางกลุ่มบางฝ่าย หวังว่า เรื่องจะ "จุดติด"
และใช้กระบวนการ "ตุลาการภิวัฒน์" จัดการ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนอย่างที่ทำมาแล้ว