จากกระแสข่าวการจัดตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างๆ กลายเป็นประเด็นที่ประชาชนต่างให้ความสนใจและติดตามดูว่า ใครจะได้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีในแต่ละกระทรวง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “กระทรวงกลาโหม” ซึ่งเป็นกระทรวงที่มีความสำคัญระดับต้นของประเทศ เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็น “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัย ราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สอบถามความคิดเห็นจากข้าราชการทหารและประชาชนทั่วประเทศ กรณี “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” ในสายตาประชาชน
จำนวนทั้งสิ้น 1,484 คน ระหว่างวันที่ 12-15 กรกฎาคม 2554 สรุปผล ดังนี้
1. ประชาชนคิดว่าใคร? ควรจะเข้ามาเป็น “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” ระหว่าง “คนในกองทัพ” กับ “คนภายนอก”
อันดับ1 คนในกองทัพ 70.96% เพราะ เป็นผู้ที่รู้และเข้าใจในระบบระเบียบของทหารเป็นอย่างดี มีประสบการณ์และเป็นที่เกรงใจของทหาร ฯลฯ
อันดับ 2 เป็นคนในกองทัพหรือคนภายนอกก็ได้ 18.10% เพราะ หากเป็นผู้ที่มีความตั้งใจจริง เป็นคนดี ซื่อสัตย์และเป็นที่ยอมรับ สามารถบริหารพัฒนากองทัพให้ก้าวหน้า ฯลฯ
อันดับ 3 คนภายนอก 10.94% เพราะ จะได้มีมุมมองใหม่ๆ เข้ามาบริหารกองทัพให้มีประสิทธิภาพ ไม่ยึดติดกับแนวคิดหรือวิธีปฏิบัติแบบเดิม ฯลฯ
2. “งานเร่งด่วน” ที่ประชาชนอยากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทำ คือ
อันดับ1 การปกป้องสถาบัน 28.52%
อันดับ 2 ดูแลความมั่นคง ความปลอดภัยของประเทศโดยเฉพาะกรณีปัญหาชายแดน 25.58%
อันดับ 3 บทบาทของกองทัพกับการเมือง(ความชัดเจน การวางตัวให้เหมาะสม) 18.51%
อันดับ 4 บทบาทของกองทัพกับสังคม(การให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนช่วยเหลือสังคม)14.66%
อันดับ 5 บทบาทของกองทัพกับเศรษฐกิจ(การดูแลควบคุมสินค้าหรือของผิดกฎหมายตามชายแดน) 12.73%
3. “คุณสมบัติ” ของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ประชาชนต้องการ คือ
อันดับ 1 เป็นคนในกองทัพ มีความรู้ความสามารถ มีผลงานเป็นที่ยอมรับ 27.63%
อันดับ 2 ยึดมั่นในคำสัตย์ปฏิญาณ จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 21.88%
อันดับ 3 มีความเป็นผู้นำ มีบารมี เด็ดขาด /รับฟังเหตุผลของผู้ใต้บังคับบัญชา 18.25%
อันดับ 4 ทำงานตรงไปตรงมา วางตัวเป็นกลาง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับนักการเมือง 17.82%
อันดับ 5 เป็นคนดี ไม่มีประวัติด่างพร้อย เป็นที่เคารพนับถือของทหาร 14.42%
4. “ความคาดหวัง” ของประชาชน ต่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คือ
อันดับ1 เป็นคนดี รักศักดิ์ศรี ยึดมั่นในเกียรติของทหาร /มีความมุ่งมั่น ในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของกองทัพ ดูแลปกป้องอธิปไตยของชาติ 23.82%
อันดับ 2 พัฒนากองทัพให้มีแสนยานุภาพ มีอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัย/พัฒนาเหล่าทหารให้มีศักยภาพ การสร้างขวัญ กำลังใจและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของทหาร 20.24%
อันดับ 3 วางตัวเป็นกลาง เหมาะสม ไม่ปล่อยให้การเมืองเข้ามาแทรกแซง 19.22%
อันดับ 4 ยึดมั่นในคำสัตย์ปฏิญาณ จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ /ให้ความช่วยเหลือประเทศชาติและประชาชนเมื่อมีภัยหรือเกิดความทุกข์ยาก 18.93%
อันดับ 5 ควบคุมดูแลทหารให้อยู่ในกฎ ระเบียบวินัย /ไม่ใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิดหรือแสวงหาผลประโยชน์ ดำเนินการกับทหารที่มีความประพฤติไม่ดี ไม่เหมาะสม 17.79%