19 ก.ค. กกต.รับรอง 40 ส.ส. ยันต้นส.ค.เปิดสภา แต่อาจพิจารณา 12 ส.ส.แดงไม่ทัน 30 วัน "ปู"ส่อหลุด ชี้ไม่ห้ามคนตัดสิทธิ์หาเสียง
รายงานข่าวจากกกต.แจ้งว่า ในการประชุมกกต.วันที่ 19 กรกฎาคม คาดว่าจะสามารถพิจารณาประกาศรับรองผลส.ส.เขตได้เพิ่มอีก 40 คน จากที่ยังไม่ประกาศผลจำนวน 126 คน เนื่องจากตรวจสอบแล้วพบว่าคำร้องคัดค้านได้มีการยกคำร้อง
ทั้งนี้ เมื่อรวมยอดส.ส.จากเดิมที่กกต.ได้ประกาศผลเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม จะทำให้มียอดรวมส.ส.เพิ่มขึ้นจำนวน 398 คน หรือร้อยละ 79.6 จากส.ส.ทั้งหมด 500 คน แต่ก็ยังไม่ถึงเกณฑ์ร้อยละ 95 ที่จะเปิดประชุมรัฐสภาครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญได้ ส่วนวันที่ 19 กรกฎาคม จะพิจารณาให้ใบเหลือง (เลือกตั้งใหม่) หรือใบแดง (เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง) ได้อีกหรือไม่จะต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมกกต. แต่ยังยืนยันว่าการประกาศผลการเลือกตั้งจะยังคงถึงเกณฑ์ร้อยละ 95 ได้ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ และจะมีการเปิดประชุมรัฐสภาได้ในต้นเดือนสิงหาคม
ไม่มั่นใจชี้ขาด12แกนนำแดงทัน30วัน
แหล่งข่าวกกต.กล่าวถึงกรณี 12 แกนนำนปช.ที่ได้รับเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทยต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมกกต.ว่าจะพิจารณารับรองหรือไม่ ซึ่งกรณีดังกล่าวกกต.มีการตั้งอนุกรรมการไต่สวนแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าจะพิจารณาได้ทันภายในกรอบเวลา 30 วันหรือไม่ ทั้งนี้หากดูตามมาตรา 8 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว.จะให้อำนาจกกต.ในการประกาศผลการเลือกตั้งแก่ผู้ได้รับเลือกตั้งได้ภายใน 7 วันทำการนับแต่วันเลือกตั้งได้ หากเห็นว่าไม่มีเหตุอันควรสงสัยว่าทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งกรณี 12 แกนนำนปช.เป็นเรื่องคุณสมบัติ ไม่ได้เป็นเรื่องที่ทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริต จึงน่าจะประกาศผลการเลือกตั้งให้แก่ 12 แกนนำนปช.ได้ แต่ที่ยังประกาศผลไม่ได้ เนื่องจากกกต.เสียงข้างมากเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม มีกกต.บางคนเกรงในเรื่องที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ยื่นคำร้องและจะขู่ฟ้องกกต.ไว้ ดังนั้น มื่อมีปัญหาในเรื่องคุณสมบัติลงสมัครรับเลือกตั้งก็ควรให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในภายหลังเมื่อได้รับการประกาศผลเป็นส.ส.แล้ว ซึ่งกฎหมายระบุไว้ชัดเพื่อที่จะให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้
"ปู"ส่อฉลุย!เหตุไม่ได้ห้ามคนตัดสิทธิ์หาเสียง
แหล่งข่าวจาก กกต.กล่าวถึงเรื่องคัดค้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยที่กกต.ยังไม่ประกาศผล เพราะยังมีประเด็นที่จะพิจารณาว่าการให้ผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองจากคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญมาช่วยหาเสียงจะทำได้หรือไม่ ซึ่งการเลือกตั้งปี 2550 ที่กกต.เคยเห็นว่าไม่ควรให้ผู้ถูกตัดสิทธิเลือกตั้งห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพราะครั้งนั้นต้องการให้ประเทศเดินหน้าไปได้ และยังมีอำนาจพิเศษที่ไม่ต้องการให้คนที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเข้ามายุ่งการเมืองอยู่ เมื่อกกต.ออกมาพูดจึงทำให้บ้านเมืองสงบและเลือกตั้งได้
"แต่การเลือกตั้งในปีนี้ไม่ได้มีเงื่อนไขเหมือนครั้งก่อน เนื่องจากประชาชนได้ออกมาลงคะแนนเสียงแล้วว่าจะต้องการให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี โดยผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์ โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือคนอื่นๆ ก็ไม่ได้ทำให้บ้านเมืองมีความวุ่นวาย อีกทั้งกฎหมายก็ห้ามเพียงมิให้ผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งห้ามตั้งพรรคการเมืองหรือเป็นกรรมการบริหารพรรค และศาลรัฐธรรมนูญก็เคยวินิจฉัยถึงการตัดสิทธิทางการเมืองซึ่งมาจากการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เพียงแค่ห้ามไปเลือกตั้ง ห้ามลงสมัครรับเลือกตั้ง ห้ามไปเป็นองค์กรอิสระ หรือดำรงตำแหน่งทางการเมือง รวมทั้งกกต.ก็ไม่ได้มีกฎหรือระเบียบที่ห้ามมิให้ผู้ถูกเพิกถอนสิทธิห้ามหาเสียงไว้อย่างชัดเจน
ดังนั้นกรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ที่มีปัญหาเรื่องคัดค้านกรณีดังกล่าวกกต.จึงน่าจะประกาศผลการเลือกตั้งให้แก่น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นส.ส.ได้" แหล่งข่าว ระบุ