ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ว่าที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่ม นปช. แถลงว่า
ตนมีข้อสังเกตว่าการแขวนผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทยหลายคน ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกหรือแกนนำหรือเคยเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงที่ผ่านมา ถ้าดูตามเหตุผลตามที่สื่อฯ ระบุบอกว่าสมาชิกดังกล่าวขาดจากความเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เนื่องจากข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ข้อ 10(5) บอกว่าสมาชิกภาพของสมาชิกพรรคสิ้นสุดลงเมื่อถูกคุมขังอยู่ด้วยหมายของศาลหรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ประเด็นดังกล่าวแยกออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือจำนวนที่ถูกแขวน มีหลายคนไม่เคยถูกคุมขัง บางคนไม่เคยถูกดำเนินคดี แต่รวมอยู่ในรายชื่อและ กกต.ก็ไม่ประกาศรับรอง ตนจึงไม่เข้าใจว่ากระบวนการพิจาณาของ กกต.มีขั้นตอนมีความชัดเจนอย่างไร
“หลายคนก็งงว่าถ้าถูกร้องเรียนเรื่องอื่นก็ว่าไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่คนที่ไม่ได้ถูกคุมขัง และไม่ถูกดำเนินคดี จะนำมาแขวนรวมเป็นพวงเดียว ถ้าไม่อธิบายก็ไม่มีทางเข้าใจ ส่วนอีกกลุ่มที่ถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดี คือ ผม หมอเหวง คุณก่อแก้ว คุณจตุพรและคุณวิภูแถลง กลุ่มนี้ทางฝ่ายกฎหมายเตรียมข้อมูลหลักฐานที่จะชี้แจงกับ กกต. ก็ชัดเจนว่าไม่ขัดกับคุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งรายละเอียดก็รอว่า กกต.จะให้ดำเนินการอย่างไร จะเรียกเจ้าตัวไปชี้แจงหรือเรียกฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายทะเบียนพรรคไปชี้แจงคราวเดียวกันก็ยังรอความชัดเจน แต่ยืนยันว่าไม่มีปัญหาเรื่องสมาชิกภาพ ไม่มีปัญหาข้อกฎหมายและพวกตนยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ เพราะคดีความยังอยู่ในขั้นตอนการพิจาณาคดี ยังไม่มีคำตัดสินจากศาลในทุกคดีที่ถูกกล่าวหา” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า มีหลายเว็บไซต์ และหลายสำนักข่าวรายงานข้อความที่ตนได้โพสต์ในเฟซบุ๊ก
ระบุว่าตนแสดงอาการข่มขู่ กกต. เจตนารมณ์ตนเพื่ออธิบายว่า เมื่อ กกต.รับรองสมาชิกพรรคเพื่อไทยหลายคนที่ถูกแขวนให้เป็นผู้สมัคร ส.ส.แล้ว โดยหลักการก็ไม่น่าจะมีขั้นตอน หรืออำนาจจะไประงับยับยั้งไม่รับรองโดยเฉพาะบัญชีรายชื่อขึ้นมาอีก เพราะที่ผ่านมาจะเป็นการรับรองก่อนและมีปัญหาค่อยสอยภายหลัง เลยวิเคราะห์ได้ว่าครั้งนี้ ถ้าอยู่ๆ กกต.ไม่รับรองจะเกิดเรื่องใหญ่ ทั้งโลกจะทักท้วง จะตั้งคำถาม เพราะแค่มีข่าวว่าไม่รับรองน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี และหลายคนในพรรคเพื่อไทย ทั้งนักวิชาการ สื่อมวลชนต่างประเทศ อย่างล่าสุดนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ถึงกับระบุว่า นี่คือการรัฐประหารโดยกฎหมายอีกครั้งสำหรับเครือข่ายพรรคเพื่อไทย ตนจึงได้แสดงความเห็นว่าทั้งโลกกำลังจับตามอง คนไทยกำลังตื่นตัวในเรื่องนี้มาก จึงอยากให้ กกต.พิจารณาให้รอบคอบ ขอยืนยันว่าไม่มีความคิดที่จะเคลื่อนไหวมวลชน หรือนำพาประชาชนมากดดัน หรือคุกคามการทำงานของ กกต. ตราบใดที่ กกต.ยังมีอำนาจหน้าที่ตามกรอบเวลาของกฎหมาย