ยิ่งลักษณ์เคาะแผนพลังงาน-งด.-ค่าแรง วันนี้ เผยพท.คว้า 3 ตำเเหน่งนิติบัญญัติ ทักษิณให้ 3 ข้อคิดหน้าตาครม.ปู1 ต้องสร้างความเชื่อมั่นเหมือน ครม.เเม้ว1 เมื่อปี2544
แหล่งข่าวจากทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยเปิดเผยถึงการประชุมยกร่างนโยบายในวันนี้ (11 ก.ค.2554) โดยมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมว่า จะเป็นการหารือลึกลงไปในรายละเอียดของนโยบาย 3 ส่วนได้แก่ พลังงาน นโยบายเงินเดือนขั้นต่ำ 15,000 บาท และนโยบายขึ้นค่าแรง 300 บาท
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยเเจ้งว่า ช่วงเวลานี้การต่อรองตำเเหน่งจากส.ส.กลุ่มต่างๆ
ภายในพรรคเเละพรรคร่วมรัฐบาลในการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีในรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์1" นั้น กำลังวุ่นวายเเต่อำนาจตัดสินใจสุดท้ายนั้นอยู่ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น จึงมีกระเเสข่าวว่าเเกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณในต่างประเทศ เช่น ฮ่องกง,บรูไน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เช่น พรรคชาติไทยพัฒนาที่มีส.ส.19คน เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยได้ให้ 3 โควตารัฐมนตรีกับพรรคชาติไทยพัฒนาคือ 1 รมว. 2 รมช. เเต่พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา อยากขอโควตาเพิ่มอีก 2 รมช. เพื่อให้นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์เเละนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ บุตรชาย เเต่ตอนนี้เเกนนำพรรคเพื่อไทยไม่ยอม จึงมีการเจรจาต่อรองกันอยู่ พรรคชาติพัฒนาเพื่อเเผ่นดินได้โควตา1รมว. พรรคพลังชลก็เช่นกันที่จะได้โควตา1รมว.
รายงานข่าวกล่าวว่า ส่วนตำเเหน่งประธานสภาผู้เเทนราษฎร เเละรองประธานสภาฯอีก 2 ตำเเหน่งนั้น
เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยจะมอบตำเเหน่งรองประธานฯ 1เก้าอี้ให้พรรคชาติไทยพัฒนา เเต่พรรคชาติไทยพัฒนาไม่ยอม จึงอาจทำให้ตำเเหน่งทางนิติบัญญัติเป็นโควตาของพรรคเพื่อไทยทั้งหมดเเละต้องเกลี่ยโควตา 1 ตำเเหน่งนั้นให้พรรคชาติไทยพัฒนาไป หากเป็นเเบบนี้ พรรคชาติไทยพัฒนาจะได้โควตา1รองนายกฯ 1รมว.3รมช.รวม5ตำเเหน่ง เเต่ทั้งหมดนั้นอยู่ที่การเจรจาต่อรองตำเเหน่งภายในของพรรคเพื่อไทยที่ต้องลงตัวก่อน จากนั้นจึงจะมีการเจรจาระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคร่วมรัฐบาลต่อไป
รายงานข่าวกล่าวว่า ตำเเหน่งหลักๆที่พรรคเพื่อไทยจะดูเเลเพื่อสานต่อนโยบายพรรคตามที่ได้หาเสียงเอาไว้
เช่น จำนำข้าวสาร 15000 บาท เเจกคอมพิวเตอร์เเทบเลตให้นักเรียน ค่าเเรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท ยกเลิกกองทุนน้ำมันฯ พัฒนาโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคฯลฯ นั้น พรรคต้องดูเเลกระทรวงหลัก คือ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงเเละเศรษฐกิจ มหาดไทย คลัง พาณิชย์ ศึกษาธิการ เเรงงาน ไอซีที พลังงาน สาธารณสุข พัฒนาสังคมฯ เป็นต้นนั้น ตอนนี้พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนตัดสินใจทั้้งหมดเเละกำหนดเเนวทางชัดเเล้วว่า 1.ต้องสร้างภาพลักษณ์ของครม.ใหม่ให้ดูดี 2.เเต่งตั้งบุคคลที่มีความรู้ในหน้าที่การงานนั้นๆ 3.เรื่องโควตาของกลุ่มต่างๆจะมาในลำดับสุดท้าย เพื่อให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลเพื่อไทยเเละครม.ยิ่งลักษณ์1 มีความน่าเชื่อถือเหมือนสมัยรัฐบาลไทยรักไทยเเละครม.ทักษิณ1 เมื่อปี 2544 ทำงานไปสักระยะเเล้วจึงมาปรับครม.กันใหม่