พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงทิศทางการสร้างความปรองดองของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีว่า ได้พูดคุยกันเป็นการภายในกับแกนนำพรรคเพื่อไทยแล้วว่า รัฐบาลควรดำเนินการพูดคุยกับทุกฝ่ายเพื่อให้สามารถสร้างความปรองดองให้ได้ เนื่องจากความปรองดองถือเป็นภารกิจที่สำคัญลำดับแรกของรัฐบาล โดยต้องดำเนินการไปพร้อมกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน โดยตั้งเป้าเอาไว้ว่า ทุกฝ่ายน่าจะโอบไหล่พูดคุยกันได้ และสามารถจูบปากกันได้ในปีหน้า โดยการสร้างความปรองดองนั้นรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์อาจต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปีถึงจะดำเนินการได้สำเร็จ เพราะทุกอย่างยังไม่สิ้นสุด และเป็นไปไม่ได้เลยที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์จะไม่มีอุปสรรคใดๆ
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า สำหรับการค้นหาความจริงนั้น ไม่จำเป็นจะต้องให้ได้ข้อเท็จจริงถึงขนาดว่า ใครเป็นผู้กระทำผิดและต้องได้รับการลงโทษ หากต้องการสร้างความปรองดอง ก็อาจจะทำด้วยการหาความจริงเพียงแค่รู้ว่าใครเป็นคนทำ แล้วคนนั้นสำนึกผิดก็เชื่อว่าสังคมไทยพร้อมที่จะให้อภัย
"ถ้ารู้แล้วว่าคนผิดเป็นใคร คนผิดก็ยอมรับผิดซะ คนไทยก็ให้อภัย คนไทยเป็นคนพุทธ ให้อภัยกันไม่ยาก บางทีประเทศไทยเวลามันมีอะไรจบ มันก็จบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น" พ.ต.ท.ทักษิณระบุ
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ที่ผ่านมาหลายฝ่ายกลัวจนเกินเหตุ เกรงว่าเมื่อพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลจะถูกเช็กบิล
เพราะห่วงสวัสดิภาพตัวเองจนต้องทำไม่ดี แต่ความจริงแล้วคนเป็นรัฐบาล ไม่ใช่ว่าจะสามารถดำเนินการอะไรก็ได้ เพราะทุกอย่างมีกติกา โดยเฉพาะข้าราชการเองก็มีระเบียบปฏิบัติอยู่อย่างชัดเจน ดังนั้น จึงไม่ต้องเป็นห่วง สำหรับกลุ่มคนเสื้อแดงที่พยายามเรียกร้องให้กองทัพออกมารับผิดชอบเหตุการณ์สลายการชุมนุมนั้น ก็เชื่อว่าตัวเองสามารถลงไปพูดคุยทำความเข้าใจกับคนเสื้อแดงส่วนใหญ่ได้
"ต้องเข้าใจเลยว่าทุกอย่างมันไม่โอเวอร์ไนต์ ก็ต้องค่อยๆ พูดกัน เพราะเราจะสมานฉันท์ ไม่ใช่ผลัดกันฉัน เราต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้เขาปรับปรุงตัว ให้เขาแก้ไขปัญหา คนไหนที่มันไม่ถูกต้องก็ต้องย้ายไปที่เหมาะสม แต่ต้องให้มีหลักเกณฑ์ไม่ใช่อยู่ๆ จะไปทำโน่นทำนี่ทันที มันไม่ได้” พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว