สวด “เทพเทือก” เลิกเพ้อเจ้อ ทบทวนจุดยืนพรรค ชี้ย้าย “ธาริต” ให้เจ้ากระทรวงคนใหม่พิจารณาเอง
วันนี้ (7ก.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยมนาย จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. และว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยว่า วันนี้จะเดินทางไปกกต.ขอบันทึกความเห็นฝ่ายกฎหมายกกต. ที่เสนอให้กกต.รับรองสถานะสภาพความเป็น ส.ส. จำนวน 125 คนของพรรคเพื่อไทย ที่มีนายจตุพรผู้สมัครในลำดับที่ 8 รวมอยู่ด้วย เพื่อนำเอกสารมาประกอบการยื่นคำร้องขอประกันตัวนายจตุพร ออกไปทำหน้าที่ ส.ส. ส่วนเรื่องคดีความต่างๆ จะเป็นไปตามกระบวนการ ทั้งนี้ เรื่องการรับตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีชุดนี้ ภารกิจใดที่มติพรรคเห็นว่าคนอื่นเหมาะสมก็ให้เขารับผิดชอบไป แต่ตนและนายจตุพรยังยืนยันขอทำงานให้พรรคไม่ว่าจะให้รับผิดชอบหน้าที่ไหน ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติหรือบริหาร ไม่มีข้อเรียกร้อง
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ที่มีข่าวความขัดแย้งระหว่าง นาย ชินวัตร หาบุญพาด กับ นาง ธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธาน นปช. นั้น
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เมื่อมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของคนหมู่มาก ยืนยันว่าไม่มีใครขุ่นข้องหมองใจ เพียงแค่มีความเห็นไม่ตรงกันเท่านั้น ที่ผ่านมาได้ทำความเข้าใจและคลี่คลายปัญหากันมาตลอด เชื่อว่าครั้งนี้ก็น่าจะปรับความเข้าใจกันได้ โดยจะเชิญทุกคนที่เกี่ยวข้องมาหารือปรับความเข้าใจกัน เพื่อให้ทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้ตามปกติ
ถามกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์
ให้สัมภาษณ์ระบุ หากกลุ่มคนเสื้อแดงจัดตั้งเกินครึ่งประเทศ อาจทำให้เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองนั้น ตนเห็นว่านายสุเทพ คงยังผิดหวังจากผลการเลือกตั้ง ขอให้หยุดเพ้อเจ้อได้แล้ว และควรใช้เวลาทบทวนความคิดและจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ว่าที่ผ่านมาบริหารประเทศพลาดอย่างไรบ้าง ทำไมประชาชนถึงไม่ยอมรับ การเคลื่อนไหวของ นปช. ไม่มีผลใดๆที่ส่งผลร้ายต่อระบอบการปกครอง แต่หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่หยุด จะเป็นผลเสียร้ายแรง เพราะพรรคประชาธิปัตย์รับใช้เผด็จการ ไม่เช่นนั้นผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาคงไม่เป็นเช่นนี้ ขอให้นายสุเทพ ตั้งสติ หันไปแข่งกันทำงานให้บ้านเมือง เพื่อที่ประชาชนจะได้ประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่ใส่ร้ายกัน
เมื่อถามว่า การเข้ามาบริหารประเทศของพรรคเพื่อไทยจะมีการย้ายนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า พรรคไม่มีอำนาจแต่งตั้งหรือโยกย้ายใคร และการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการก็ต้องมีเหตุผลที่ชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งขึ้นอยู่กับเจ้ากระทรวงจะพิจารณาเองว่าที่ผ่านมาข้าราชการคนไหนทำงานสนองนโยบายและทำประโยชน์ให้ประชาชนได้หรือไม่.