แม้วลั่นไม่ล้างแค้น บอกหากกลับไทยแล้วเติมเชื้อไฟ ก็จะไม่กลับ

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม

หลังทราบผลการนับคะแนนโดยพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส. 265 คน ว่า พรรคเพื่อไทยจัดทำโพล โดยบริษัทเอกชนของต่างประเทศ ที่พรรคไทยรักไทยเคยว่าจ้าง ซึ่งผลออกมาว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.เกิน 300 คนทุกครั้งที่สำรวจ แม้แต่เขตทหารก็ชนะ แต่เกิดความคลาดเคลื่อน เพราะได้ ส.ส.น้อยกว่าโพลมาก เนื่องจากบัตรเสียครั้งนี้มีจำนวนมากร่วมล้านใบ หากคำนวณเป็นจำนวนตัว ส.ส.เท่ากับ ส.ส.หายไป 6-7 คน ซึ่งน่าจะลองนำบัตรเสีย ที่ประชาชนตั้งใจจะกากบาทให้พรรคเพื่อไทย แต่กากบาทผิดช่อง เพราะคำอธิบายไม่ถูกต้องมาคำนวณดูว่าคะแนนหายไปเท่าไร ซึ่งตรงนี้ทำให้โพลหลายสำนักต้องหักปากกา เพราะทุกสำนักผิดหมด ซึ่งตนไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร

"แต่ไม่เป็นไร จบเป็นจบ วันนี้ชนะแล้ว ไม่อยากไปอะไรมากมาย ผมไม่ติดใจ เราจะเดินไปข้างหน้า ไม่ถอยหลังอีกแล้ว วันนี้ผมมาคุยแค่ส่งไม้ผลัดเท่านั้น มันจบแล้ว ไม่อยากไปว่าอะไร เพราะเมื่อคุณยิ่งลักษณ์ (น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี) ตั้งรัฐบาลได้ ภารกิจหลักภารกิจแรก คือการส่งเสริมความปรองดอง ภารกิจที่สอง คือการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ซึ่งต้องทำควบคู่กันไปและไม่สามารถทำทีละอย่างได้ ส่วนปัญหาทางการเมืองก็ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว โดยเฉพาะเมื่อการเลือกตั้งเสร็จสิ้นใหม่ๆ การเมืองจะสงบนิ่ง" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองว่า หลังจากนี้การเมืองจะนิ่งมากขึ้นเพราะทุกอย่างได้เปลี่ยนไป

โดยความรุนแรงของกระบวนการต่อต้านตนลดอุณหภูมิลงทั้งหมด ไม่เฉพาะแต่กองทัพ ที่ผ่านมาที่ยังมีคนต่อต้านอยู่ เพราะไม่เชื่อว่าตนจะไม่ล้างแค้นและยังกลัวว่าจะมาล้างแค้น ซึ่งยืนยันได้ว่าไม่มีอีกแล้ว และความแค้นก็แค่เป็นเรื่องผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ซึ่งทุกคนสามารถมาพูดคุยและทักทายกันได้ ส่วนการเดินทางกลับไทยนั้น เป็นเพียงความต้องการของคนในพรรคเพื่อไทย แต่ยืนยันได้ว่าหากกลับไปแล้วกลายเป็นการเติมเชื้อไฟให้เกิดความขัดแย้งหรือต้องออกมาตีกันอีกก็จะไม่กลับ หากจะกลับควรเป็นการกลับไปดับไฟความขัดแย้งมากกว่า

"ถ้าผมจะกลับไปแล้วมันจะตีกันอย่างไรช่างมัน มันไม่ใช่ผม ถามว่าอยากกลับไหม ก็อยากกลับ แต่ถ้ากลับไปแล้วมันไม่เกิดความสงบ ก็อยู่เมืองนอกต่อได้เลย ผมไม่ได้เดือดร้อนอะไร การกลับประเทศไทยก็เป็นความฝันอย่างหนึ่งของผม แต่ไม่ใช่ว่าเราฝันทุกอย่างจะเป็นจริงได้ทุกอย่าง อาจจะเป็นจริงอย่าง หรือสองอย่าง เหมือนเราซื้อหวย ก็ฝันจะถูกรางวัลที่ 1 แต่ถูกเลขท้าย 2 ตัวก็ยังดี" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวต่อว่า ยืนยันว่าตนไม่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรตำแหน่งใน ครม. ที่จะมี น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน แต่อาจจะมาสอบถามบ้างว่าใครเป็นใคร เพราะตนรู้จักคนเยอะกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็พร้อมที่จะให้ข้อมูล แต่การตัดสินใจสุดท้ายจะเป็นของ น.ส.ยิ่งลักษณ์และคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย

"ผมสบายใจแล้ว สิ่งที่เราห่วงว่าที่ทำงานเอาไว้แล้วไม่เสร็จ เพราะโดนปฏิวัติก่อน ก็มีคนสานต่อแล้ว โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้นโคลน (โคลนนิ่ง) ผมมาตั้งแต่เด็ก เพราะโตมาด้วยกัน เหมือนลูกสาวคนโตของผม เขาเป็นน้องคนเล็ก คุณแม่เสียตั้งแต่ตอนเขายังเล็ก ยังเป็นนักเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ คุณแม่ก็ฝากผมให้ดูแลต่อ ผมดูแลมาตั้งแต่ตอนนั้น แล้วก็ส่งไปเรียนเมืองนอก กลับมาก็มาทำงานอยู่กับผม ไต่เต้าตั้งแต่เป็นเซลส์ขายเยลโล่เพจเจส จนมาเป็นประธานของเอไอเอส ตอนหลังมาเป็นซีอีโอของเอสซีแอสเซท ทำให้คุณยิ่งลักษณ์เหมือนผมมากที่สุด ดังนั้นการเลือก น.ส.ยิ่งลักษณ์มาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยวันนี้จึงไม่ผิดหรอก เพราะการชนะการเลือกตั้งก็ถือว่าถูกไปเกินครึ่งแล้ว" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว และว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ดีกว่าตน เพราะเป็นคนคิดเร็ว ทำเร็ว แต่รอบคอบกว่า อีกทั้งยังเป็นคนที่อยู่กับเทคโนโลยีมากกว่า ทำให้เข้าใจและใช้เทคโนโลยีได้ดีกว่า แม้จะมีองค์ประกอบเรื่องคนเก่งที่จะมาช่วยงานน้อยกว่าสมัยที่ตนเป็นนายกฯ เนื่องจากผ่านการยุบพรรคการเมืองมาแล้ว 2 ครั้ง แต่หลังจากเดือนพฤษภาคม 2555 ซึ่ง 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยจะพ้นโทษตัดสิทธิการเมือง 5 ปีแล้ว คนเหล่านี้จะเข้ามาช่วยงาน น.ส.ยิ่งลักษณ์เพิ่มเติม

รายงานข่าวจากคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ เปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณซึ่งพักอยู่ที่บ้านพักกลางเมืองดูไบนั้น

หลังจากรับทราบผลการนับคะแนนที่มีความชัดเจนว่าพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณได้โฟนอินให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนไทยและสื่อมวลชนต่างประเทศหลายสำนัก รวมทั้งรับโทรศัพท์จากแกนนำพรรคเพื่อไทยและพรรคการเมืองต่างๆ ที่โทรศัพท์ทางไกลมาแสดงความยินดี นอกจากนี้ ยังมีคนใกล้ชิดอีกหลายคนที่เป็นคนไทยและชาวต่างชาติ ที่เข้ามาแสดงความยินดีถึงบ้านพักจนดึก โดย พ.ต.ท.ทักษิณมีนัดหมายกับสื่อมวลชนไทยและสื่อมวลชนต่างประเทศหลายสำนัก ช่วงวันที่ 4-5 และ 6 กรกฎาคม
 

"มีหลายคนที่เป็นคนไทยโทรศัพท์มาสอบถามถึงกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปฮ่องกง เพื่อพบปะพูดคุยกับแกนนำพรรคการเมืองต่างๆ ที่จะมาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ตามที่สื่อมวลชนไทยบางสำนักระบุนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณยังอยู่ที่ดูไบและไม่ได้นัดพบกับใคร นอกจากสื่อมวลชนบางสำนักเท่านั้น" คนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณยืนยัน