เปิดใจทักษิณสดจากดูไบไม่ต้องการนิรโทษกรรม-เอาคืน4.6หมื่นล.

พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร   อดีตนายกรัฐมนตรี  ให้สัมภาษณ์สด จากดูไบ ออกอากาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ในรายการ เดินหน้าประเทศไทย  

โดยนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เป็นผู้สัมภาษณ์ ในประเด็นเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล   ว่า   ที่ผ่านมาตนยังไม่ได้คุยกับใคร ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย และคุณยิ่งลักษณ์ ตนไม่เกี่ยวข้อง เพราะ หลายฝ่ายคงไม่อยากเสียค่าโทรศัพท์ทางไกลเยอะ

เมื่อถามว่ามีข่าวเรื่องปฏิญญาดูไบ ว่าทักษิณได้พูดคุยกับทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว พ.ต.ท. ทักษิณ กล่าวว่า ไม่มี โดยเฉพาะกับรัฐมนตรีกลาโหม ยังไม่ได้คุยกับตนเลยนับตั้งแต่มีการปฏิวัติ สำหรับเรื่องความคิดเห็นของกระทรวงกลาโหมเรื่องการตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยนั้น อดีตนายกฯกล่าวว่า เป็นเรื่องที่เร็วเกินไป เพราะต้องเป็นเรื่องที่คุณยิ่งลักษณ์กับพรรคเพื่อไทยต้องคุยกัน ต้องคิดถึงเรื่องความสบายใจของทุกฝ่าย เพราะต้องการเห็นความปรองดอง

นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ถามต่อว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะทาบทามพล.อ. ประวิทย์ วงศ์สุวรรณ มาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของพรรคเพื่อไทย พ.ต.ท. ทักษิณ กล่าวว่า คงเร็วเกินไปที่จะคิด คิดว่าพรรคเพื่อไทยคงต้องนั่งคิดก่อนว่า การตั้งรัฐบาลต้องมีใครมาร่วมบ้าง

ส่วนกรณีเรื่องที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ย้ำเรื่องนิรโทษกรรมที่ต้องการเอาเงินคืนนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบว่า ไม่มีใครคิด และตนก็ไม่ยอมให้ใครคิดทำอะไรเพื่อตนคนเดียว บ้านเมืองเป็นเรื่องของทุกฝ่าย การออกกฎหมายเพื่อคนๆเดียวทำไม่ได้ และไม่มีใครคิดทำด้วย  ประชาธิปัตย์เขาหลงทาง ใช้เป็นประเด็นโจมตีทางการเมืองมากกว่า

"ผมไม่เคยคิดเรื่องได้เงินคืน หรือไม่ได้เงินคืน มันไม่ได้เป็นเรื่องหลัก แต่อะไรที่ยุติธรรมก็ยุติธรรม อะไรที่ไม่ยุติธรรมก็ไม่ยุติธรรม เป็นเรื่องการแสวงหาความจริงและเอาความจริงมาเป็นตัวตั้ง เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการคณะนั้นมากกว่า ไม่ใช่หน้าที่ของคุณยิ่งลักษณ์หรือรัฐบาล แต่คุณยิ่งลักษณ์มีหน้าที่สนับสนุนให้ความปรองดองเกิดขึ้นได้"

สำหรับโมเดลเรื่องการปรองดองของบ้านเมืองนั้น พ.ต.ท. ทักษิณ คิดว่า อย่าไปชี้นำให้คณะกรรมการอิสระตรวจสอบ และค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติดีกว่า ถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไรให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะสนับสนุน อะไรก็แล้วแต่ที่เกิดสันติสุขในบ้านเมืองนั้นเป็นเรื่องที่ดี อยากเห็นทุกอย่างเพื่อเป็นการถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวดีกว่า มันก็มีเรื่องกันมานานแล้ว พระเจ้าอยู่หัวจะครบ 84 พรรษาในวันที่ 5 ธันวาคมปีนี้ ถ้าเราจะช่วยกันลดราวาศอก จะเป็นสิ่งดีงามสำหรับคนไทย

สำหรับการเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อมางานแต่งงานของ เอม พินทองทา ชินวัตร ลูกสาวนั้น พ.ต.ท. ทักษิณ กล่าวว่า ตนอยากกลับบ้านตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่การมางานแต่งงานของลูกเป็นความปรารถนาของพ่อ แต่ความปรารถนานี้จะเป็นจริงหรือไม่ก็แล้วแต่สถานการณ์

"สิ่งที่แรกที่ปูต้องทำหากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คือ ต้องคุยกับอาจารย์ คณิต ณ นคร เรื่องปรองดองให้ตรงไปตรงมา รีบแก้ไขปัญหาเรื่องของแพง และเศรษฐกิจ รวมถึงจัดการระเบียบราชการให้เข้าที่เข้าทาง กรณีเรื่องการกลับบ้านนั้น ตนก็ควรเป็นส่วนหนึ่งของคำตอบของการปรองดอง แต่ถ้าเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาก็ไม่กลับ

เมื่อนายสรยุทธ ถามว่า ตราบใดที่ยังไม่มีการแก้ไขสถานะของทักษิณ ซึ่งมีโทษจำคุกรออยู่ ก็ยังไม่กลับใช่หรือไม่ พ.ต.ท. ทักษิณ ยอมรับว่า แน่นอนว่าก็คงต้องเป็นอย่างนั้น