“บิ๊กตู่”ลั่น“ปฏิวัติ”แค่ข่าวลือ

“ประยุทธ์”ย้ำ“ปฏิวัติ”แค่ข่าวลือ ชี้กองทัพไม่จำเป็นต้องเคลียร์พรรคเพื่อไทย”  เพราะทหารไม่มีสิทธิ์ต่อรองการเมือง  วอนเคารพกติกา อย่าทำให้บ้านเมืองเสียหาย

ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  เมื่อวันที่  30  มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.กล่าวภายหลังเดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้ ถึงกระแสข่าวการปฏิวัติ หากพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาลว่า เป็นเพียงข่าวลือ ข่าวลือก็คือข่าวลือ ไม่มีหรอก

เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นรัฐบาลทหารจะปฏิวัติหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทหารอยู่ในส่วนของทหาร
 
ทหารจะทำหน้าที่ของทหารใครจะเป็นรัฐบาลก็เป็นไป ส่วนที่หลายคนเป็นห่วงว่าหากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะเข้ามาแตะต้องกองทัพนั้น ถามว่าเขามีอำนาจหรือเปล่า ถ้ามีอำนาจก็ทำไป ตนไม่ได้มุ่งหวังจะต้องรักษาตัวเอง แต่สิ่งที่ตนทำมาทั้งหมดทำด้วยจิตใจ และทำด้วยความรักชาติ รักแผ่นดิน ส่วนกรณีที่ผู้ใต้บังคับบัญชา 4-5 คน ที่เข้าไปเกี่ยวข้องทางการเมืองนั้น ยืนยันว่าถูกลงโทษตามกฎหมาย เพราะตนไม่ได้สั่งการลงไป ขณะนี้ตำรวจกำลังสอบสวนอยู่  ขอให้เป็นเรื่องบุคคล

ผู้สื่อข่าวถามว่าจุดยืนของกองทัพ หากพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาล และเสื้อแดงออกมาสร้างความวุ่นวายจะทำอย่างไร

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ใครเป็นผู้รับผิดชอบในการสั่งการก็รับผิดชอบไป ขอให้เป็นเรื่องของวันข้างหน้า ขอให้ใจเย็น ๆ ไม่น่ามีอะไร อยู่ที่พวกสื่อจะทำอย่างไรให้ประชาชนสบายใจ ว่าทหารอยู่ในส่วนของทหาร ฝ่ายการเมืองและฝ่ายบริหารก็ดำเนินการไป หากเกิดเรื่องราวขึ้นมาก็จะต้องมีคนรับผิดชอบ และสั่งการ ที่ผ่านมามีบทเรียนอยู่แล้ว

สำหรับกรณีพรรคเพื่อไทยพยายามเข้ามาเจรจากับทางกองทัพทั้งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และ ผบ.ทบ. นั้น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่จำเป็น พอถึงเวลาใครเป็นรัฐบาลก็สั่งทหารได้อยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับใครเป็นรัฐบาล ก็ตั้งฝ่ายบริหาร รมว.กลาโหม ขึ้นมาสั่งการตามสายการบังคับบัญชา เพราะทหารมีสายการบังคับบัญชาที่ชัดเจน ไม่ต้องกลัว ทั้งนี้ตนเคยพูดไปแล้วว่าประเทศชาติไม่ใช่เรื่องที่  2 ฝ่าย ต้องมาต่อรอง และตนคิดว่ากองทัพไม่มีสิทธิ์จะต่อรองอะไร เพราะกองทัพเป็นหน่วยงานสถาบันที่จะต้องทำหน้าที่ตามกรอบกฎหมายที่กำหนด 

ผบ.ทบ.กล่าวต่อว่า วันนี้โลกก้าวไกล ครั้งที่ตนเคยไปเยี่ยมประเทศเกาหลีใต้ เมื่อก่อนเขากับประเทศไทยพอ ๆ กัน แต่ 30 ปี ผ่านไป เขาก้าวล้ำไป 50 ปี

ตนไม่ได้ดูถูกคนไทย แต่เรายังรวมกันไม่ค่อยจะได้ เราน่าจะมองผลประโยชน์ระยะยาวของประเทศชาติ อยู่ที่ไหนอย่างไรเป็นหลักดีกว่า ถ้ายังทำอยู่แบบนี้ประเทศไทยก็ยังถอยหลังอยู่กับที่ต้องช่วยกัน ตนอยากให้มีการพัฒนา เพราะประเทศเขากับประเทศเรามีวัฒนธรรมใกล้เคียงกัน แต่เขามีความสามัคคีมากกว่า ทำให้คนไม่แตกแยกกันตั้งแต่เด็กจนโต  มีการฝึกความเข้มแข็ง และอดทน

คิดว่า น่าจะใช้วันเวลาที่เราเหลืออยู่ก่อนเลือกตั้ง และหลังเลือกตั้งทำให้บ้านเมืองปลอดภัย

ไม่ต้องมีสีอะไรได้แล้วเลิกกันเถอะ และมาว่ากันด้วยกฎกติกา กฎหมาย อย่าทำให้บ้านเมืองเสียหายตนขอร้องเท่านั้น และให้สถาบันอยู่เหนือความขัดแย้ง ไม่อยากให้ทุกคนไปแตะต้อง  ตนขอเท่านี้ แต่ไม่เคยขอได้เลย มันเป็นความกดดันเพราะตนเป็นเจ้าหน้าที่ ตำรวจ กระทรวง ทบวง กรม ก็เป็นเจ้าหน้าที่เขาก็จะต้องดำเนินการ

ท่านจะต่อสู้ก็ต่อสู้ทางการเมืองไป และหันกลับมาดูแลเรื่องกฎหมาย ถ้าไม่ใช้กฎหมายท่านอยู่ไม่ได้แน่นอน

หลังวันที่ 3 ก.ค.ก็อยู่ไม่ได้ ทหารจะถอยหลังออกมาดูว่าท่านจะต้องแก้ไขปัญหาของท่านให้ได้ ที่ผ่านมามักเรียกทหารไปช่วยตลอด แต่ก็ไม่เรียบร้อย ดังนั้นท่านจะต้องแก้ไขกันให้ดี เรายืนหยัดในเรื่องการเมืองคือเป็นทหารประชาธิปไตย


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์