นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ถึงกรณีที่สมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา
ระบุว่าไทยต้องการใช้กรณีปราสาทพระวิหารและความขัดแย้งชายแดนไทยและกัมพูชา เป็นเหตุให้ล้มการเลือกตั้ง 3 กรกฎาคมนี้ว่า ในวันนี้แม้จะใกล้วันหย่อนบัตรลงคะแนนแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่ากลุ่มคนที่คิดจะล้มการเลือกตั้งนั้นยังมีเชื้ออยู่ โดยแสดงออกผ่านความเคลื่อนไหวของ น.อ.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 2550 และเครือข่ายของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ยังคงคิดจะทำทุกทางเพื่อไม่ให้มีผลเลือกตั้งออกมา หรือให้ออกมาตามแบบที่ตัวเองต้องการ ซึ่งจะเห็นได้จากความเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนี้ และความเคลื่อนไหวของกลุ่มสยามสามัคคี ของ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่ถือเป็นแนวร่วมที่คอยสอดประสานกัน แต่จากการตรวจสอบความเคลื่อนไหวของขุมกำลังภายในประเทศไทย ที่พอจะเคลื่อนออกมาทำการปฏิวัติได้นั้น ยังไม่พบความเคลื่อนไหวในรูปแบบที่จะเป็นการออกมาทำปฏิวัติ แต่ยังคงพบพฤติการณ์ช่วยเหลือและสนับสนุนพรรคการเมืองบางพรรคในการเลือกตั้งเท่านั้น
"สถานการณ์ประเทศไทยวันนี้ต้องยอมรับว่าทุกฝ่ายไม่ไว้วางใจเรื่องการปฏิวัติทั้งสิ้น ทั้งไทยและสังคมโลก ไม่เว้นแม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชาและสหรัฐอเมริกาเองก็ตาม ส่วนตัวเชื่อว่าการปฏิวัติในช่วงนี้คงจะเกิดขึ้นไม่ได้ หรือหากใครจะทำ ก็ต้องบอกว่าเป็นการคิดผิดอย่างมหันต์ แต่ที่เป็นห่วงในตอนนี้คือหลังการเลือกตั้ง คือถ้าประชาชนลงคะแนนสนับสนุนพรรคเพื่อไทยอย่างล้นหลาม อาจจะมีบางกลุ่มไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งและออกมาเคลื่อนไหวเหยียบย่ำความต้องการของประชาชน แล้วพยายามพัฒนาสถานการณ์ไปสู่ความวุ่นวายทางการเมือง ซึ่งตรงนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปต้องติดตาม" นายณัฐวุฒิกล่าว
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า สำหรับกรณีที่นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ระบุว่าอาจจะต้องเลื่อนการเลือกตั้งในบางเขตเลือกตั้ง หากเกิดปัญหาบริเวณชายแดนไทยและกัมพูชานั้น ก็ต้องบอกกับ กกต.ทุกคนเลยว่าในช่วงนี้เริ่มจะออกมาพูดและทำอะไรในสิ่งที่ไม่ควรทำบ่อยครั้ง ตั้งแต่การเดินทางไปต่างประเทศพร้อมกัน 3-4 คน ทั้งที่เป็นช่วงของการหาเสียงเลือกตั้ง โดยเฉพาะกรณีนางสดศรีที่พูดแล้วสร้างความสับสนให้ประชาชน ซึ่งตนมองว่าการเลื่อนการเลือกตั้งเป็นเรื่องใหญ่ ที่กระทบต่อการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น หากยังไม่เกิดอะไรขึ้น กกต.ก็ยังไม่ควรที่จะให้ความเห็น
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า นอกจากนี้ กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์พยายามหยิบยกประเด็นเขาพระวิหารมาโจมตีพรรคเพื่อไทยในการหาเสียงนั้นก็ไม่สมควรอย่างยิ่ง
เพราะพรรคเพื่อไทยและผู้สนับสนุนทุกคนเป็นคนไทยที่มีสัญชาติไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยไม่มีใครถือสัญชาติอังกฤษแม้แต่คนเดียว ดังนั้น จึงไม่มีใครคิดคดทรยศต่อประเทศชาติอย่างที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหาอย่างแน่นอน