มรดกโลกเดือดนพดลโต้มาร์ค

 

คมชัดลึก :'นพดล' ออกแถลงการณ์ สวนหมัด 'อภิสิทธิ์' กรณี 'ไทย-กัมพูชา' ลั่น กล่าวหาเป็นเท็จ จวก ไร้วุฒิภาวะ ทำเพื่อหวังผลการเมือง


3. นายอภิสิทธิ์กล่าวในจดหมายฉบับที่  8  ในเฟซบุ๊คว่า   ตนไม่มีสิทธิที่จะมาตำหนิรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์เพราะตนเป็นผู้สร้างความเสี่ยงให้ไทยต้องอยู่ในภาวะอันตรายต่ออธิปไตยของชาติ เนื่องจากเป็นผู้ไปลงนามสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียวในปี  2551  สิ่งที่ควรทำคือการนั่งนิ่งๆ แล้วถามตัวเองว่าได้ทำอะไรลงไปกับประเทศชาติจนทำให้นายอภิสิทธิ์ต้องต่อสู้เพื่อรักษาสิทธิและอธิปไตยของไทยที่ตนกับพวกเกือบจะยกใส่พานให้กัมพูชาไปแล้วหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเสียก่อนนั้น

นายอภิสิทธิ์ไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้   น่าจะมีวุฒิภาวะและละอายแก่ใจบ้างว่าสิ่งที่รัฐบาลนายสมัครได้ทำไปนั้นก็เพื่อปกป้องดินแดนและพื้นที่ทับซ้อน  4.6  ตารางกิโลเมตร ไม่ให้กัมพูชาเอาไปขึ้นทะเบียนมรดกโลก และเจรจาสำเร็จจนกัมพูชายอมตัดพื้นที่ทับซ้อนออกไป รัฐบาลยนายสมัครและตนจึงเป็นผู้ปกป้องดินแดนไม่ได้เป็นผู้ทำให้เสียดินแดนหรือสร้างปัญหาเอาไว้   นายอภิสิทธิ์อุตส่าห์ประดิษฐ์ประดอยถ้อยคำซึ่งเป็นความเท็จและเป็นการใส่ร้ายทั้งสิ้น   รัฐบาลนายสมัครและตนไม่เคยยกอธิปไตยใส่พานให้กัมพูชา 

4. กรณีที่นายอภิสิทธิ์กล่าวหาว่ารัฐบาลนายสมัครและตนไปสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียวในปี 2551  นั้น นายอภิสิทธิ์พูดความจริงครึ่งเดียว   ท่านพูดถูกที่ว่าตนได้ลงนามในคำแถลงการณ์ร่วม แต่ท่านพูดเท็จตรงที่ว่า คำแถลงการณ์ร่วมมีผลเป็นการสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนมรดกโลกได้ จะเห็นได้ว่าการพิจารณาและในมติของที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในปี  2551  มีการระบุอย่างชัดเจนถึงการไม่อ้างอิง ไม่พิจารณา ไม่คำนึงถึง และห้ามนำแถลงการณ์ร่วมฉบับวันที่  18  มิถุนายน  2551  มาใช้ประกอบการพิจารณาตามการตัดสินใจของรัฐบาลไทยที่จะระงับแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวตามคำสั่งศาลปกครองกลาง

ดังนั้น จึงสรุปได้ชัดเจนจากเอกสารว่า คณะกรรมการมรดกโลกมีมติขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกโดยพิจารณาจากคุณค่าสากลอันโดดเด่นของตัวปราสาทเอง ไม่เกี่ยวกับแถลงการณ์ร่วมหรือร่างแถลงการณ์ร่วม หรือการสนับสนุนของไทย 

นายอภิสิทธิ์เรียนกฎหมายมาน่าจะเข้าใจถึงหลักกฎหมายพื้นฐานในข้อนี้ดีว่า เอกสารที่ห้ามใช้หรือเป็นโมฆะนั้น ย่อมไร้ผลทางกฎหมาย ดังนั้น คำแถลงการณ์ร่วมที่คณะรัฐมนตรีนายสมัครอนุมัติให้ตนไปเซ็นจึงไม่มีผลใดๆ ทางกฎหมายเลย เอกสารคำแถลงการณ์ร่วมจึงไร้ผลทางกฎหมาย ซึ่งแม้แต่ทางกัมพูชาเองก็ยอมรับว่ามันไม่มีผลทางกฎหมายใดๆ เลย เพราะฉะนั้นการกล่าวหาว่าตนไปเซ็นเอกสารและสร้างความเสียหายจึงเป็นการกล่าวหาที่เป็นเท็จโดยสิ้นเชิง

5. นายอภิสิทธิ์ กล่าวในหน้าที่  2  ของจดหมายฉบับที่  8  ในเฟซบุ๊คว่า   บอกตรงๆ ว่ารู้สึกละอายใจแทนตนที่จนถึงวันนี้ยังไม่ได้สำนึกเลยว่า ต้นตอปัญหาที่รัฐบาลตนสร้างขึ้นกำลังส่งผลร้ายแรง คุกคามชีวิตพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนอย่างที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นเลยนั้น ตนดีใจที่นายอภิสิทธิ์ก็เป็นคนที่รู้สึกละอายใจได้เหมือนคนทั่วไป แต่แปลกใจว่าตอนที่มีคนตาย  91  คนและบาดเจ็บ เกือบ 2 พันคนนั้น ไม่เห็นท่านรู้สึกเช่นนั้น ไม่เห็นท่านแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย

ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ไม่ต้องละอายใจแทนตน เพราะรัฐบาลนายสมัครและตนเป็นผู้เจรจาปกป้องดินแดนพื้นที่ทับซ้อน และรัฐบาลนายสมัครและตนไม่ได้สร้างปัญหาไว้อย่างที่นายอภิสิทธิ์กล่าวหา และไม่มีการเสียดินแดนหรือผลร้ายแรงใดๆ นายอภิสิทธิ์เคยออกทีวีช่อง 11  ดีเบทกับกลุ่มพันธมิตรฯ ก็เคยพูดไว้ว่า กัมพูชาขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทและไม่มีการเสียดินแดน ลองไปเปิดเทปดูจะช่วยเตือนความจำได้ 

6. ในหน้าที่  2  ของจดหมายฉบับที่  8  ในเฟซบุ๊ค นายอภิสิทธิ์กล่าวหาด้วยความเท็จว่า   รัฐบาลนายสมัครโดยรมว.ต่างประเทศในขณะนั้น ออกแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาลงวันที่  18 มิถุนายน  2551  มีเนื้อหาสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว และยอมรับแผนที่  1  ต่อ  200,000  หรือแผนที่ฝรั่งเศสให้ใช้เป็นแผนการพัฒนาบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์รอบปราสาทพระวิหารนั้น   ข้อความนี้เป็นเท็จโดยสิ้นเชิง

ไม่มีความตอนใดของคำแถลงการณ์ร่วมที่มีการยอมรับแผนที่  1 ต่อ 200,000  หรือแผนที่ฝรั่งเศสเลย เพราะทุกคนในกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีต่างประเทศรู้ว่าเราไม่ยอมรับแผนที่ระวางนี้ที่เป็นสาเหตุให้ไทยแพ้คดี จะมีการเขียนถึงก็คือในบันทึกความตกลงปี  2543  ที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ไปเซ็นกับกัมพูชาเท่านั้น

และ 7. ในความตอนล่างของหน้าที่  2  ของจดหมายฉบับที่  8  ในเฟซบุ๊ค ที่นายอภิสิทธิ์ระบุว่า   มิอาจยับยั้งการใช้แถลงการณ์ดังกล่าวเป็นใบเบิกทางให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารแต่เพียงฝ่ายเดียวได้ เพราะคณะกรรมการมรดกโลกได้มีมติขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียวในวันที่  8  ก.ค.  2551  เช่นเดียวกันนั้น   นายอภิสิทธิ์เขียนให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นเพราะคำแถลงการณ์ร่วมจึงทำให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทเป็นมรดกโลกได้ ซึ่งเป็นความเท็จ เพราะเอกสารนี้ไร้ผลทางกฎหมาย และคณะกรรมการมรดกโลกตัดเอกสารนี้ไม่ให้นำเข้าพิจารณา การเขียนของนายอภิสิทธิ์เป็นการเขียนความเท็จที่คิดเอาเอง ไม่มีแหล่งอ้างอิง และเป็นการใส่ร้ายป้ายสีอย่างน่าละอาย 

ความจริงยังมีอีกหลายประเด็นที่มีการบิดเบือนในจดหมายฉบับที่  8  ในเฟซบุ๊คกรณีปัญหาไทย  -  กัมพูชา ซึ่งตนขอสงวนสิทธิ์ชี้แจงในภายหลัง แต่ในเบื้องต้นนั้นขอชี้แจงประเด็นสำคัญและข้อกล่าวหาที่เป็นเท็จที่ต้องรีบชี้แจงเพื่อขจัดความสับสน

ทั้งนี้ แม้ตนจะไม่มีสิทธิเลือกตั้งแต่ก็อยากเห็นการรณรงค์หาเสียงอย่างสร้างสรรค์ อยากเห็นนักการเมืองและนักการเมืองแต่ละพรรคนำนโยบายและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาให้ประเทศ ถ้านโยบายพรรคประชาธิปัตย์ดีกว่าประชาชนก็จะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ถ้านโยบายพรรคเพื่อไทยดีกว่าประชาชนก็จะสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ประชาชนคิดเป็นและเลือกเป็น

แต่การที่นักการเมืองเอาความเท็จมาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นโดยไม่ละอายและไร้ซึ่งวุฒิภาวะนั้นตนไม่เชื่อว่าการทำเช่นนี้จะทำให้ได้คะแนน เพราะเป็นการดูถูกสติปัญญาคนไทยที่ต้องการนักการเมืองที่พูดความจริงทั้งหมด ไม่ใช่พูดความจริงเพียงครึ่งเดียว หรือแย่ยิ่งกว่านั้นคือการเอาความเท็จมาพูด สิ่งที่นายอภิสิทธิ์เขียนในเฟซบุ๊คนั้นเป็นความพยายามที่จะใส่ร้ายป้ายสีตน นายอภิสิทธิ์อาจจะพยายามทำลายเกียรติยศและศักดิ์ศรีของตน ซึ่งตนอดทนได้และอโหสิกรรมให้ นายอภิสิทธิ์อาจจะพยายามเหยีบย่ำตนได้แต่ตนจะไม่ยอมให้นายอภิสิทธิ์เหยียบย่ำทำลายความจริง และตนจะปกป้องความจริงจนสุดกำลัง 

ถ้าหากมองเนื้อหาการเขียนจดหมายฉบับที่  8  ในทางที่ดีนั้น จะแสดงให้เห็นว่านายอภิสิทธิ์อาจเป็นผู้นำที่ไม่ได้ศึกษาหาความรู้และดูความเป็นมาของกรณีปราสาทเขาพระวิหารจากข้อเท็จจริงและเอกสารของราชการ ทั้งๆ ที่บริหารประเทศมาเกือบ 3 ปี แต่ถ้ามองในทางที่แย่ แสดงว่านายอภิสิทธิ์ไร้วุฒิภาวะและความเป็นนายกรัฐมนตรี ทำทุกอย่างเพื่อหวังผลทางการเมือง ใช้แม้กระทั่งความเท็จกล่าวหาผู้อื่นอย่างไร้จริยธรรมของผู้นำ ตนสัญญาจะต่อสู้กับความเท็จและการใส่ร้ายป้ายสีอย่างไม่ย่อท้อ

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์