ส่งสารประกาศชัยชนะ'ไทย'ถอนตัวมรดกโลก
ชายแดนไทย-เขมรตึงเครียด ทหารกัมพูชาเสริมกำลังชายแดนจังหวัดสุรินทร์ หันปากกระบอกปืนใหญ่เข้าใส่ขณะที่ทหารไทยกลับฐานที่มั่นคุมเข้ม หลังไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ทำชาวบ้านผวาหวั่นเกิดศึกสู้รบ หลังไทยถอนตัวจากภาคีฯมรดกโลก ประท้วงไม่เลื่อนถกแผนบริหาร “พระวิหาร” หวั่นกัมพูชาเจ้าเล่ห์ใช้สู้คดีศาลโลก ขณะที่ “ซก อาน” กร้าว ส่งสารประกาศชัยชนะเหนือไทย ด้านนายกฯ อุ้ม “สุวิทย์” ถอนตัวทำตามกรอบมติครม. ส่วนพันธมิตรฯ ประกาศชัย ยกย่อง “สุวิทย์” ลั่นยุติชุมนุม 1 ก.ค.นี้ “ปลอดประสพ” ยำเละ จี้ “มาร์ค” ตอบคำถาม 9 ข้อ ระแวงมีวาระซ่อนเร้น
ชี้แจงถอนตัวมรดกโลก
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจากรรมการมรดกโลกฝ่ายไทย ให้สัมภาษณ์ข้ามทวีประหว่างเดินทางไปร่วมประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ครั้งที่ 35 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ว่าได้นำประเทศไทยถอนตัวออกจากการเป็นภาคีสมาชิกอนุสัญญาการคุ้มครองมรดกโลก เนื่องจากร่างมติกลางที่ศูนย์มรดกโลกนำเข้าสู่การพิจารณา มีการตัดเรื่องแผนบริหารจัดการรอบพื้นที่ปราสาทพระวิหารในข้อ 6 ซึ่งยังไม่มีข้อยุติออกไป หากมีการพิจารณาร่างนี้เท่ากับไทยยอมรับแผนฯ ยืนยันว่าไทยไม่ยอมรับแผนฯของกัมพูชาที่มีการรุกล้ำอธิปไตยไทยอย่างชัดเจน จึงพยายามขอให้เลื่อนวาระนี้ออกไป แต่คณะกรรมการฯมรดกโลกไม่ยอม และพยายามผลักดันเข้าสู่ที่ประชุม โดยไม่พิจารณาความอ่อนไหวเรื่องเขตแดน มุ่งแต่ดูแลรักษาเรื่องวัฒนธรรม แสดงให้เห็นเจตนาไม่ดี ทำให้เราเป็นห่วงปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมา เพราะไม่รู้ว่ามติคณะกรรมการมรดกโลกจะออกมาอย่างไร จึงถอนตัวออกมาก่อน เพื่อไม่ให้มติของที่ประชุมมีผลผูกพันต่อประเทศไทย
ศึกเขาพระวิหารระอุเขมรเหิม!เสริมกำลังชายแดน
“สุวิทย์”ย้ำไม่มีเสีย มีแต่ดี
นายสุวิทย์กล่าวว่า ทั้งนี้จะไม่มีการพิจารณาเรื่องแผนฯดังกล่าวในปีหน้าอีกแล้ว หากครั้งนี้คณะกรรมการมรดกโลกจะพิจารณาแผนฯของกัมพูชา ก็พิจารณาไป แต่การที่ไทยถอนตัวออกมา หมายถึงเราไม่ยอมรับการดำเนินการใด ๆ ของคณะกรรมการมรดกโลก คณะทำงานของไทยได้หารือกันอย่างรอบคอบ และตัดสินใจถอนตัวออกมา แต่ได้บอกกับทางองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโกว่าการกระทำใด ๆ ในตัวปราสาทพระวิหาร ก็เป็นเรื่องของกัมพูชา หากกัมพูชาจะไปขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียว คงทำได้เฉพาะภายในดินแดนกัมพูชา จะมาล่วงล้ำดินแดนไทยไม่ได้ ไม่มีสิทธิมากระทบกับอำนาจอธิปไตยและเขตแดนไทย
“ยืนยันว่า การถอนตัวออกจากภาคีสมาชิกอนุสัญญาการคุ้มครองมรดกโลก ไม่มีข้อเสีย มีแต่ข้อดี เพราะทำให้ไทยไม่ต้องผูกพันกับข้อมติของคณะกรรมการมรดกโลก ถ้าเรายอมรับตามแผนบริหารจัดการดังกล่าว เท่ากับว่ายินยอมเห็นชอบ ทำให้กัมพูชาหยิบยกเป็นข้ออ้างเป็นหลักฐานไปสู้คดีในศาลโลกได้ ไม่ถือว่าการเดินทางไปครั้งนี้ปฏิบัติหน้าที่ล้มเหลว เราทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยไทยอย่างเต็มที่”
ไม่มีผล“ห้วยขาแข้ง-เขาใหญ่”
นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามการถอนตัวจากสมาชิกภาคีอนุสัญญาฯ ไม่มีผลต่อมรดกโลกของไทยที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว เช่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่จะมีผลกับสิ่งที่ขอขึ้นทะเบียนใหม่เท่านั้น ทั้งนี้แหล่งมรดกโลกจะถูกถอดถอน หากไม่ดูแลรักษาตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งที่ผ่านมาเราปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ทุกอย่างอยู่แล้ว ถึงแม้ไม่มีคณะกรรมการมรดกโลกเราก็ดูแลพื้นที่ของเราอย่างดี
อ้างอยู่ในกรอบมติครม.
ทางด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่าการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกเมื่อคืนวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายสุวิทย์เดินออกจากที่ประชุมและแสดงเจตนาการถอนตัวออกจากการเป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลก การดำเนินการทั้งหมดอยู่ในกรอบมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) และผ่านการปรึกษาหารือ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาตนได้คุยกับนายสุวิทย์ทางโทรศัพท์หลายครั้งและประสานกับนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ สำหรับสาเหตุหลักนั้นไทยแสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่ต้องการให้ที่ประชุมพิจารณาแผนบริหารจัดการที่กัมพูชาจะเสนอ แต่ปรากฏว่าก่อนนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม มีการนำเสนออ้างข้อมติเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง ซึ่งกัมพูชาเสนอขึ้น แม้จะไม่ได้พูดแผนบริหารจัดการพื้นที่ชัดเจน แต่มีความกำกวม และเราได้ปรึกษาเเล้วและเห็นว่ายอมรับไม่ได้ ที่ประชุมต้องการนำร่างมติสองฝ่ายไปพิจารณาในที่ประชุม ฝ่ายไทยเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องเพราะมีการพูดกันมาตลอดว่าต้องไม่มีการตัดสินใจในเรื่องนี้ ต้องมีความชัดเจนว่าต้องเลื่อนออกไปและระบุไว้ในข้อบังคับการประชุม
สั่งทหารเฝ้าระวังชายแดน
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวทางการต่อสู้ในอนาคตจะยากขึ้นหรือไม่ หลังจากไทยถอนตัว นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนคิดว่าตอนนี้ยูเนสโกและกัมพูชาต้องไปทบทวนว่าจะดำเนินในกรอบของตัวเองอย่างไรต่อไป การปรึกษากับไทยในชั้นนี้ยังทำได้เพราะกระบวนการถอนตัวอย่างเป็นทางการต้องใช้เวลาพอสมควรตามกฎกติกา เมื่อถามว่าผลกระทบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จะรุนแรงขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก่อนที่นายสุวิทย์จะเดินออกจากห้องประชุม ตนได้คุยกับผบ.ทบ.และรมว.กลาโหมให้เฝ้าระวัง มีรายงานว่าตอนนี้มีความเคลื่อนไหวของกัมพูชาระยะหนึ่งแล้ว ขอย้ำว่าการดำเนินการทั้งหมดอยู่ในกรอบมติครม.และหารือแล้วก่อนที่นายสุวิทย์จะเดินทางไป ดังนั้นเป็นมติที่มีการรองรับการกระทำ เรียบร้อย ขอบคุณนายสุวิทย์ที่ทำงานหนักมาก ในช่วงก่อนหน้านี้ และย้ำว่ามันเป็นไปตามแนวทางที่ตนพูดมาตลอดว่าต้องสู้ถึงที่สุด การสู้มาทั้งหมดนั้นยืนยันว่าไม่สูญเปล่าแน่นอน
“ยูเนสโก”ไม่เคยให้เงินช่วย
ทางด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยว่า ช่วงกลางดึกวันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตนได้รับรายงานจากนางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร ในฐานะกรรมการมรดกโลก ระบุว่าไทยได้ถอนตัวจากการเป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลกและกรรมการมรดกโลกแล้ว ทั้งนี้การตัดสินใจลาออกดังกล่าวของฝ่ายไทยจะยิ่งทำให้คณะกรรมการมรดกโลกทำงานลำบาก และจากการพิจารณาแผนบริหารจัดการดังกล่าวแล้วเห็นว่า หากไทยไม่ยินยอมที่จะเข้าร่วมแผนฯ ทางกัมพูชาจะไม่สามารถทำตามแผนนั้นได้ เนื่องจากพื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่อยู่ในฝั่งไทย ทั้งนี้เมื่อไทยไม่ได้เป็นภาคีสมาชิกกับยูเนสโกแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามกรอบระเบียบใด ๆ ที่กำหนดไว้ในอนุสัญญาฯ อีกต่อไปด้วย
นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อว่าในส่วนผลกระทบต่อโบราณสถานอื่น ๆ ของไทยที่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกไปแล้วนั้น คิดว่าจะไม่มีผลกระทบอะไร เนื่องจากที่ผ่านมาไทยไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากทางยูเนสโก ในเรื่องการอุดหนุนงบประมาณในการดูแลสถานที่ให้กับแหล่งมรดกโลกต่าง ๆ อยู่แล้ว คงมีเพียงความร่วมมือทางวิชาการร่วมกันเป็นครั้งคราว และการได้รับประโยชน์ในเรื่องการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เท่านั้น ขณะที่แหล่งโบราณสถานอื่น ๆ ของไทย ที่กำลังอยู่ระหว่างการรอเสนอชื่อเป็นมรดกโลก คงต้องยุติลงเมื่อไทยไม่ได้เป็นภาคีสมาชิกดังกล่าวแล้ว
พธม.ประกาศชัยชนะ
ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธ มิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษก พธม. แถลงว่าภาคประชาชนขอขอบคุณนายสุวิทย์ที่ได้ตัดสินใจถอนตัวถือเป็นชัยชนะของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ การที่นายอภิสิทธิ์ ออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนการถอนตัวของนายสุวิทย์ โดยระบุว่าคณะกรรมการมรดกโลกจะมีมติให้เลื่อนการพิจารณาวาระแผนบริหารจัดการมรดกโลกเขาพระวิหาร แต่ไทยต้องดูถ้อยคำเรื่องการส่งทีมบูรณปฏิสังขรณ์ว่าจะมีปัญหาหรือไม่ แต่ต้องเคารพมติของที่ประชุมนั้น แสดงว่าจุดยืนของนายอภิสิทธิ์ต้องการเพียงแค่การเลื่อน โดยยอมแลกแม้กระทั่งการซ่อมบูรณะปราสาทพระวิหาร หวังเพียงให้พ้นวันหย่อนบัตรเลือกตั้ง 3 ก.ค. ดังนั้นการตัดสินใจครั้งนี้จึงไม่ถือเป็นผลงานของนายอภิสิทธิ์ แต่เป็นผลงานของนาย สุวิทย์โดยตรง
ทั้งนี้นายปานเทพ ยังเปิดเผยด้วยว่า ทางคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย และกองทัพธรรมมูลนิธิ ได้ประชุมหารือกัน โดยมีมติว่าหลังจากที่รอดูสถานการณ์การประชุมมรดกโลกจนสิ้นสุดในวันที่ 29 มิ.ย. แล้ว จะมีการชุมนุมต่อไปถึงคืนวันที่ 1 ก.ค.นี้ จะประกาศยุติการชุมนุมทั้งด้านสะพาน มัฆวานฯ และสะพานชมัยมรุเชฐ โดยจะใช้เวลาในการเก็บอุปกรณ์ 4-5 วัน และใช้เวลาที่เหลือเพื่อติดตามสถานการณ์อธิปไตยของชาติต่อไป
ขณะที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำ พธม.กล่าวว่า การถอนตัวออกจากภาคีอนุสัญญามรดกโลก เป็นความประสบผลสำเร็จไปแล้ว เพราะหากมีการประชุมต่อไป คณะกรรมการมรดกโลกจะอนุมัติให้ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกโดยสมบูรณ์ ส่งผลให้ไทยต้องสูญเสียดินแดนและผลประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลมหาศาล
“ปู”ห่วงสัมพันธ์เพื่อนบ้าน
สำหรับความเห็นของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่าเรื่องนี้มีความละเอียดอ่อน การจะดำเนินการใด ๆ ต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ ในส่วนของพรรคเพื่อไทยเรามีนโยบายที่เน้นเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้าน โดยประเทศต้องไม่เสียประโยชน์ เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามว่าห่วงว่าจะทำให้เกิดความตึงเครียดถึงขั้นสู้รบกันตามแนวชายแดนหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่าหวังว่ารัฐบาลจะคุมสถานการณ์ได้ และกองทัพคงทำหน้าที่ในส่วนนี้ เพราะผลกระทบจากปัญหาระหว่างเพื่อนบ้าน ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน รวมถึงผู้ประกอบการค้า ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงเน้นความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน
“ปลอด” ยำเละ 9 ข้อ
ขณะที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่นายสุวิทย์ยื่นจดหมายลาออกจากการเป็นภาคีคณะกรรมการมรดกโลก ว่าเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก ประชาชนชาวไทยซึ่งเป็นเจ้าของประเทศจำเป็นต้องรู้ความจริง เพราะเกี่ยวกับสถานะของประเทศไทยในเวทีโลก ดินแดน และบูรณภาพของราชอาณาจักรไทย พรรคเพื่อไทยขอตั้งคำถามไปยังนายอภิสิทธิ์ 9 ข้อ คือ 1. การตัดสินใจของนายสุวิทย์ในครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีด้วยใช่หรือไม่ เพราะนายสุวิทย์อ้างว่าโทรศัพท์หารือกับนายกรัฐมนตรีตลอดเวลา และให้สัมภาษณ์ว่านายกรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบเรียบร้อยแล้ว
อาจเข้าข่ายมาตรา 190
ส่วนข้อ 2. การถอนตัวออกจากภาคีองค์กรระหว่างประเทศได้ผ่านความเห็นชอบ ครม.แล้วหรือยัง เพราะมีเรื่องที่เกี่ยวกับดินแดนและบูรณภาพของประเทศ น่าจะเข้าข่ายมาตรา 190 จึงอยากถามว่าทำไมถึงไม่ขอความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน ทำไปโดยพลการได้อย่างไร ถ้าจะอ้างว่าไม่มีสภา ก็ยังมีวุฒิสภาอยู่ 3. ต้องถามว่าในขณะที่เป็นรัฐบาลรักษาการ และกำลังมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นเหมาะสมหรือไม่ ทำไมรัฐบาลจึงรีบร้อนตัดสินใจ ไม่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ นายสุวิทย์และนายอภิสิทธิ์ มีวาระซ่อนเร้นหรือไม่ เพราะดูแล้วชอบกล ผิดกาลเทศะ
4. การแก้ปัญหาระหว่างประเทศมีหลายขั้นตอน ทำไมรัฐบาลถึงใช้วิธีรุนแรงแก้ปัญหาโดยการถอนตัวจากมรดกโลก การทำเช่นนี้ประเทศไทยได้ประโยชน์อะไร เพราะการลาออก กรรมการมรดกโลกก็ยังประชุมต่อไปได้ ยิ่งเมื่อประเทศไทยไม่ได้เป็นสมาชิกอยู่ด้วย จะยิ่งทำให้เขาตัดสินใจอะไรได้ง่ายขึ้น เพราะไม่มีใครขัดขวาง ดังนั้นประเทศไทยจึงไม่ได้อะไรเลย แค่เอามือปิดตา และรอให้เขาเขกกบาลอย่างเดียวเหมือนที่เด็กเขาทำกัน 5. การตัดสินใจถอนตัวครั้งนี้ นายสุวิทย์และนายกรัฐมนตรีเคยถามคนอยุธยา คนอุดรธานี คนสุโขทัย คนอุทัยธานี หรือคนโคราช ซึ่งในจังหวัดเขามีมรดกโลกบ้างหรือไม่ รัฐบาลเอาอำนาจ นโยบายอะไรไปตัดสินใจแทนเขา
จี้“สุวิทย์”แจงใช้เงิน 10 ล้าน
ข้อ 6. รัฐบาลควรจะรู้ว่าการถอนตัวครั้งนี้กระทบกับการท่องเที่ยวของประเทศไทย และเป็นการลดระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวในเชิงวัฒนธรรม และทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวของประเทศเป็นอย่างมาก 7. นายกฯ ให้สัมภาษณ์ตลอดเวลาว่าไม่มีอะไรน่าห่วง ช่วงบ่ายของวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมายังพูดเช่นนี้ จึงถามว่าทำไมต้องโกหกประชาชน และหลอกสื่อ 8. นายสุวิทย์เบิกเงินไป 10 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการล็อบบี้ จึงขอทราบรายละเอียดการใช้เงินด้วย เพราะกลัวว่าไม่โปร่งใส ความจริงการล็อบบี้เรื่องใหญ่ ๆ แบบนี้ เขาจะให้เอกอัครราชทูตไปพูดคุยกับ รมว.ต่างประเทศ และผู้นำประเทศนั้น ๆ ดังนั้นการเบิกเงินไปเลี้ยงกันเองเช่นนี้จึงไม่เหมาะสม
2 แห่งวืดเป็นมรดกโลก
ข้อที่ 9 ขณะนี้ไทยกำลังเตรียมเสนอพื้นที่อีก 2 แห่งเป็นมรดกโลก คือ พื้นที่บริเวณ 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาใน กทม. และฝั่งธนบุรี รวมทั้งหมู่เกาะสุรินทร์ สิมิลัน ตะรุเตาให้เป็นมรดกโลก อยู่ ๆ ก็ไปลาออกเช่นนี้ การขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีก 2 แห่งก็คงไม่ได้ เป็นการทำลายโอกาสของประเทศ
“นายอภิสิทธิ์มีคำตอบหรือไม่ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร หรือคิดเพียงสั้น ๆ ที่จะเอาใจกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะคิดว่าจะใช้กลุ่มพันธ มิตรฯ หลังแพ้เราในการเลือกตั้งอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า ขอให้นายอภิสิทธิ์ตอบคำถามทั้งหมดโดยด่วนด้วย พรรคเพื่อไทยจะถามอย่างนี้ทุกวันจนถึงวันเลือกตั้ง”
“นพดล”ย้ำไทยมีเพื่อนน้อย
ขณะที่นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.การต่างประเทศ ในฐานะที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนนตรี ได้เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในหัวข้อ “สุวิทย์ ทำอะไรลงไปที่ปารีส” ว่าเมื่อปีที่แล้ว นายสุวิทย์หัวหน้าทีมเจรจามรดกโลก คุยนักคุยหนาว่าเลื่อนวาระแผนบริหาร และจัดการปราสาทพระวิหาร มาปี 54 ผมพูดในตอนนั้นว่า อยากให้รัฐบาลประชาธิปัตย์อยู่ถึงการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในปีนี้ และเป็นไปตามคาด นายสุวิทย์ไม่สามารถเลื่อนวาระการพิจารณาแผนบริหารพื้นที่รอบปราสาทออกไปได้อีก เพราะรัฐบาลนี้ไม่สามารถล็อบบี้ประเทศอื่นที่เป็นกรรมการมรดกโลกให้ช่วยประเทศไทยได้ เพราะคุณมีเพื่อนน้อยในเวทีโลก
ชายแดนยังไม่เสริมกำลัง
ในส่วนความเคลื่อนไหวทางทหาร พ.อ.ประวิตร หูแก้ว โฆษกกองทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า สถานการณ์แนวชายแดนกัมพูชาเรียบร้อยดี ไม่มีการปรับกำลังเพิ่มเติมแต่อย่างใด ขณะที่ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่ากรณีของนายสุวิทย์ไม่ส่งผล กระทบกับการทำงานของทหาร ยืนยันว่า ทหารตามแนวชายแดนจะไม่มีการปรับกำลังใด ๆ โดยจะวางกำลังและเฝ้าระวังตามปกติ หากใครล้ำดินแดนเข้ามา ต้องขออนุญาตก่อน ห้ามไม่ให้มีใครรุกรานโดยเด็ดขาด
“เขมร”สะใจชนะไทย
ขณะเดียวกันเว็บไซต์ฟิฟทีนมูฟ ได้เผยแพร่สารของนายซก อาน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในฐานะหัวหน้าคณะตัวแทนกัมพูชา ในการประชุมมรดกโลก ซึ่งได้ส่งสารด่วนถึงชาวกัมพูชาระบุว่า กัมพูชาได้รับชัยชนะเป็นประวัติศาสตร์ ณ ที่ทำการยูเนสโก กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส หลังจากคณะผู้แทนไทยได้พยายามอย่างหนัก ในการขัดขวางแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหาร ด้วยการสร้างความวุ่นวาย ทั้งในเวลาแยกหารือ และในบริเวณที่ทำการยูเนสโก โดยเฉพาะได้รุมกันเข้าไปในที่เจรจาถึง 28 คน ไทยยังกล่าวหาว่าการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร เป็นการไม่เคารพตามหลักปฏิบัติของอนุสัญญา ค.ศ. 1972 โดยเรียกร้องซ้ำ ๆ ว่า ควรทำการขึ้นบัญชีข้ามแดน (ขึ้นทะเบียนร่วม)
สื่อนอกช่วยกระพือข่าว
ด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ไทยตัดสินใจถอนตัวออกจากภาคีคณะกรรมการมรดกโลกขององค์การยูเนสโก เพราะปัญหาความขัดแย้งกับกัมพูชาเรื่องปราสาทพระวิหาร โดยนายสุวิทย์ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาของไทย แถลงกับสื่อมวลชนไทยที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ว่าการถอนตัวของไทยออกจากภาคีมรดกโลก เพราะไม่ต้องการยอมรับคำตัดสินใด ๆ จากที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งที่ประชุมได้ตกลงรับร่างแผนบริหารจัดการพื้นที่ปราสาทพระวิหารตามที่กัมพูชาเสนอ บรรจุอยู่ในวาระการประชุม
ชายแดน“สุรินทร์”น่าห่วง
ที่ จ.สุรินทร์ เมื่อเวลา 15.30 น. วันเดียวกัน มีรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กลับมาตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง โดยทหารและตชด.ที่ออกไปเลือกตั้งส.ส.ล่วงหน้า เสร็จแล้วได้รับคำสั่งให้กลับเข้าฐานที่ตั้งตามแนวชายแดนอย่างเร่งด่วน และให้เตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพราะมีการประเมินสถานการณ์ว่าช่วง 2-3 วันนี้ ไทย-กัมพูชาอาจเกิดการปะทะระลอกใหม่ นอกจากนี้ในช่วงเวลา 16.00 น. ได้มีเครื่องบินขับไล่เอฟ 16 ของกองทัพไทย จำนวน 2 ลำ บินเหนือพื้นที่ บริเวณ อ.ปราสาท ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 20 กม. เสียงดังกระหึ่ม ทำให้ชาวบ้านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องมีปะทะกันอีกแน่นอน
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชา ด้านตรงข้าม อ.กาบเชิง และ อ.พนมดง โดยเฉพาะบริเวณใกล้กับปราสาทตาควาย ทหารช่างไทยที่กำลังก่อสร้างถนนเข้าไปยังพื้นที่ปราสาทตาควาย บ้านไทยนิยมพัฒนา ต.บักได อ.พนมดงรัก พบว่าทหารกัมพูชากว่า 300 นาย กำลังเร่งขุดหลุมบังเกอร์ และตั้งฐานปืนใหญ่ หันกระบอกปืนมาฝั่งไทย โดยทหารกัมพูชาได้ตะโกนสั่งห้ามทหารไทยไปยืนดูการสร้างหลุมหลบภัย ส่วนบริเวณตรงข้ามช่องกร่าง บ้านหนองตาเลิฟ ต.บักได และตรงข้ามปราสาทตาเมือนธม บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก กัมพูชามีการเสริมกำลังเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมากเช่นกัน.