เมื่อ 26 มิ.ย. นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมศูนย์คัดแยกบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าที่ลงคะแนนแล้ว
ที่ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่ว่า ภาพรวมการเลือกตั้งล่วงหน้าอยู่ในเกณฑ์เรียบร้อย สำหรับจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าขณะนี้ยังได้รับรายงานไม่ครบ เบื้องต้นมีรายงานยอดรวมผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าที่นอกเขตจังหวัดที่ลงทะเบียนไว้ 2,646,974 คน มาใช้สิทธิ 1,493,890 คน คิดเป็นร้อยละ 55.67 ส่วนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตจังหวัด 217,466 คน ปรากฎว่ามีผู้มาใช้สิทธิประมาณร้อยละ 90
นายสุทธิพล กล่าวอีกว่า การใช้สิทธิจะมีปัญหาบ้างเฉพาะในพื้นที่ที่มีจำนวนผู้ลงทะเบียนจำนวนมาก ทำให้มาใช้สิทธิไม่ทัน นอกจากนี้ยังมีปัญหาการตกหล่นของบัญชีรายชื่อจำนวนมาก และมีผู้ที่ไม่รู้ว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลงการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า
สำหรับการตรวจสอบการคัดแยกบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า
พบว่ามีกรปรับปรุงขั้นตอนการจัดส่งและเทคโนโลยีในการจัดส่งทำให้มีความมั่นใจการจัดส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าได้เป็นที่เรียบร้อยไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนจะจัดส่งบัตรไปยังเขตปลายทางได้เมื่อใดขึ้นอยู่กับการเดินทางของบัตรเลือกตั้งล่วงทั้งหมด อย่างไรก็ดีตนมั่นใจในระบบและวิธีการคัดแยกจัดส่งของบริษัทไปรษณีย์ที่มีการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด และระบบติดตามรถด้วยพิกัดดาวเทียม รวมถึงการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม
เมื่อถามถึงกรณีที่มีปัญหามีหีบบัตรเลือกตั้งปรากฎอยู่ในสถานที่เก็บหีบบัตรล่วงหน้าในเขตจังหวัดที่จ.ลพบุรี
โดยพบหีบบัตรอยู่ก่อน 1 หีบ นายสุทธิพล กล่าวว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ด้รับรายงาน อย่างไรก็ดีห้องเก็บหีบบัตรไม่ควรมีหีบบัตรไปปรากฎ กรณีดังกล่าวจะต้องตรวจสอบที่มาของหีบว่าเป็นหีบทีมีอยู่เดิมที่รอการทำลายหรือเป็นหีบบัตรเลือกตั้งในครั้งนี้
ส่วนกรณีที่พลเอกสมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา ติดตั้งคัทเอาท์ มีเนื้อหาเชิญชวนไม่ให้สนับสนุนคนที่เผาบ้านเผาเมืองเป็นส.ส.นายสุทธิพล กล่าวว่า
กรณีดังกล่าวต้องตรวจสอบว่าเข้าข่าย พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว.มาตรา 57 กรณีเจ้าพนักงานของรัฐที่กระทำการใดให้มีผลได้เสียต่อพรรคการเมืองถือเป็นความผิดหรือไม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังปิดหีบเลือกตั้งพบว่า มีประชาชนจำนวนหนึ่งไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้ทั้งที่เดินทางมาถึงคูหาแล้ว โดยนายชินภัทร ศรีวิชัย ชาว จ.พะเยา ที่ไม่สามารถใช้สิทธิ์ลงคะแนนได้ กล่าวว่า ตนมาถึงก่อนเวลา แต่เจ้าหน้าที่บอกสถานที่ลงคะแนนผิด ทำให้ตนไปผิดตึกจนต้องวิ่งกลับไปกลับมาหลายรอบ รวมทั้งยังได้ยินประกาศว่า ผู้ที่อยู่ภายในโรงเรียนสามารถไปใช้สิทธิ์ที่คูหาได้ แต่เมื่อตนไปถึงคูหา เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยกลับระบุว่า หมดเวลาและปิดหีบไปแล้ว ตนรู้สึกเสียดาย ถึงแม้ว่าจะเป็น 1 เสียง แต่ก็ถือว่ามีความสำคัญ
ขณะที่พล.ต.ต.สุเทพ รมยานนท์ ประธานกกต.กทม. ชี้แจงว่า การปิดหีบอยู่ที่ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ในแต่ละคูหา บางครั้งเจ้าหน้าที่แต่ละคนอาจจะตัดสินใจผิดพลาด เพราะวุฒิภาวะของแต่ละคนต่างกัน จึงเป็นการใช้ดุลพินิจที่คลาดเคลื่อน