อดีต รมช.คลัง ถามหาคนรับผิดชอบจากมาตรการป้องกันเก็งกำไรค่าเงินบาท

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 ธันวาคม 2549 19:02 น.

พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีต รมช.คลัง แกนนำ ปชป.วอนเร่งสอบหาคนได้ประโยชน์จากการปรับเปลี่ยนมาตรการป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาท พร้อมเรียกร้องผู้ที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบ ก่อนจะบานปลายไปถึงหัวหน้ารัฐบาล เหมือนกรณีซื้อที่ดินย่านรัชดาของคนใกล้ชิดอดีตนายกรัฐมนตรี

เปิดเผยถึงกรณีที่กระทรวงการคลัง ผ่อนปรนมาตรการป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย ว่า สิ่งที่ไม่ถูกต้อง คือ ก่อนประกาศหรือเมื่อประกาศแล้ว ได้มีการออกมาให้สัมภาษณ์ว่าก่อนประกาศมาตรการการเก็งกำไร ได้มีการปรึกษาหารือกันระหว่างผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อย่างรอบคอบถี่ถ้วนแล้ว แต่วันรุ่งขึ้นกลับเปลี่ยนแปลงมาตรการอย่างกะทันหัน

ที่ไม่เป็นธรรมาภิบาลเกิดขึ้นระหว่างผู้คุมนโยบาย หรือผู้อยู่ใกล้ชิดหรือไม่ และทั้งหมดนี้กลายเป็นความไม่น่าเชื่อถือเกิดขึ้นกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งยากจะเยียวยาและต้องใช้เวลานานกว่าจะเรียกกลับมา

ดังนั้น การจะดึงความเชื่อถือกลับมาได้ต่อเมื่อมีกระบวนการตรวจสอบที่ชัดเจนให้สังคมเชื่อถือได้ว่าไม่มีอะไรที่ไม่ถูกต้อง และถ้ามีความผิดพลาดจะต้องมีผู้รับผิดชอบ ไม่ใช่ว่าคนที่รับผิดชอบในนโยบายสำคัญของประเทศทำผิดพลาดไปแล้วก็จบกัน โดยไม่ต้องมีความรับผิดชอบ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปหน่วยงานอื่น หรือชุดอื่นก็ทำเช่นนี้อีกได้

แต่จะเอาความรู้สึกของผมไปเปรียบเทียบกับคนอื่นไม่ได้ เมื่อเร็วๆ นี้ ใครพูดถึงเรื่องพันท้ายนรสิงห์หรือไม่ แต่ถ้าเขาคิดว่าเขาแสดงความรับผิดชอบตรงนั้นแล้ว ความเชื่อถือเชื่อมั่นของประเทศไทยจะกลับมา ก็ควรจะทำ แต่ถ้าไล่ความรับผิดชอบไปจริงๆ ถ้าตรงนี้ไม่หยุด จะเป็นอันตรายลามไปถึงตัวนายกรัฐมนตรี ลองเปรียบเทียบดูว่า ทำไมซื้อที่ดินรัชดาถึงบอกว่านายกรัฐมนตรีขณะนั้นต้องรับผิดชอบล่ะ แล้วตรงนี้นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบด้วยหรือไม่ ถ้าปล่อยไว้จะลามไปกันใหญ่ ถ้าในความรู้สึกของผม ควรจะตัดตอนให้จบตรงนี้ นายพิเชษฐ กล่าว

นายพิเชษฐ กล่าวว่า ตนไม่ได้กล่าวหาว่ามีใครได้ประโยชน์จากการปรับเปลี่ยนมาตรการดังกล่าว แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีคำถามเช่นนี้ค่อนข้างมากจากคนที่อยู่ในวงการ ฉะนั้น การตรวจสอบที่ง่ายที่สุดคือการตรวจสอบว่าการสูญเสียที่เกิดขึ้นใครเป็นผู้เสียประโยชน์ และที่บอกว่าได้คืนมาแล้ว 500,000 ล้านบาทในตลาดหลักทรัพย์นั้น ใครเป็นผู้ได้ และผู้ที่เสียเป็นผู้ได้คืนหรือไม่