“ทรงกิตติ” ยันทหารไม่แตกแถว วางตัวเป็นกลางทางการเมือง ไม่จำเป็นต้องสั่งกำชับ เหตุทุกคนรู้หน้าที่ดี
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 5 / 2554 โดยมี พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) เป็นประธานในที่ประชุม พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร) พล.อ.อ. อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ) และพล.ต.อ.วิเชียร พจน์ โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ร่วมประชุม
พล.อ.ทรงกิตติ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ถึงกรณีที่กองทัพที่ถูกหลายฝ่ายมองว่ากองทัพวางตัวไม่เป็นกลางว่า กรณีดังกล่าวขอยืนยันชัดเจนว่าทหารทุกนายทุกเหล่าทัพยังวางตัวอย่างเป็นกลางไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมืองแต่การเมืองอย่างใด และไม่จำเป็นต้องกำชับเพิ่มเพราะเป็นเรื่องที่ทหารทุกนายทราบดีอยู่แล้ว เรื่องเป็นกลางไม่ต้องมาพูด ทุกคนรู้หน้าที่ ผมเป็นหัวหน้ากองทัพ คุมกำลัง 4 แสนนาย กองทัพจะเป็นยังไงให้ดูที่ผม ผมเป็นยังไงกองทัพเป็นอย่างนั้น
ด้าน พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ที่ประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ได้คุยกันเรื่องการเลือกตั้ง ส.ส. กำชับให้ข้าราชการทั้ง 4 เหล่าทัพวางตัวเป็นกลางเป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไร ซึ่งการที่หลายฝ่ายมองว่า กองทัพเข้าไปแทรกแซงเรื่องการเมืองนั้น เป็นเพียงการหยิบยกข้อดีใส่ตนเองและนำข้อด้อยให้กับฝ่ายตรงข้ามเพื่อให้เกิดข้อได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองเท่านั้น หน้าที่ของ ศรส.ลต.ตร. จะจับตาดูอย่างเข้มข้นเพื่อเฝ้าระวังไม่ให้เกิดความรุนแรง ส่วนยุทธศาสตร์ 315 ยืนยันว่า การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำตามหน้าที่เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด ไม่จำเป็นต้องลดบทบาททหารในการปฏิบัติการ 315 ครั้งนี้ และการปฏิบัติการก็ต้องดำเนินต่อไป
ทั้งนี้สิ่งที่ทำแต่แรกเพื่อไม่ให้ถูกครหาว่าทหารเข้ามาแทรกแซงคือการไม่ขอกำลังทหารมาดูแลความปลอดภัยหน่วยเลือกตั้ง โดยใช้แต่กำลังตำรวจล้วนๆ ยกเว้นพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอใน จ.สงขลา ที่เป็นพื้นที่ในความดูแลของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภาย