เมื่อเวลา 09.30น. วันที่ 9 มิ.ย. ที่จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ได้ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียง โดยเข้าสักการะอนุสาวรีย์ย่าโม และขึ้นเวทีย่อยเพื่อปราศรัย ระหว่างนั้นมีผู้หญิงสูงวัยถือดอกกุหลาบสีแดง ซึ่งปะปนอยู่บริเวณด้านหน้าเวที ตะโกนเสียงดังใส่นายอภิสิทธิ์ทันทีว่า “คนโคราชไม่ต้องการไอ้คนโกหก ไข่ชั่งกิโลฯที่ไหนเขาทำกัน ไปๆๆๆ” เจ้าหน้าที่พยายามดึงออกมา แต่เจ้าตัวยังตะโกนเสียงดังว่า “2 ปีที่ผ่านมา ทำอะไรให้ประเทศบ้าง ราคาของก็แพงสูงลิ่ว ขอถามสักทีที่ผ่านมาดีแต่พูดไม่ทำงาน เก่งอย่างเดียวคือเรื่องโกหกเก่งและดีแต่พูด”
จากนั้นนายอภิสิทธิ์พร้อมคณะเดินหาเสียงบริเวณถนนสุรนารีผ่านตลาดแม่กิมเฮง
ก็มีชายอายุ 56 ปี อดีตเชฟโรงแรมแห่งหนึ่งขี่รถมอเตอร์ไซด์เมื่อผ่านรถแห่ก็ตะโกนด่าเสียงดังเกี่ยวกับคดี 91 ศพ จากนั้นก็ได้ขี่มอเตอร์ไซค์กลับเข้าไปยังวัดสะแก อ.เมือง เมื่อนายอภิสิทธิ์เดินเท้าต่อไปอีกระยะก็ได้เจอชายดังกล่าวยืนรวมกลุ่มอยู่กับแม่ค้าขายผลไม้ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งเจ้าหน้าที่พาชายดังกล่าวไปพบนายอภิสิทธิ์ เมื่อเจอนายกฯ ก็กล่าวตอนหนึ่งว่า “ผมขอถามว่าถ้าอยากให้ผมกลับมารักพรรคประชาธิปัตย์ ถามนายกฯจริงๆ ใครสั่งการคดี 91 ศพ ขอให้นายกฯตอบคำถามผมแล้วผมจะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์”
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "เหตุการณ์ปีที่แล้ว ไม่มีใครสั่งฆ่าประชาชน" ทำให้ชายดังกล่าวแย้งพร้อมถลกเสื้อเผยรอยกระสุนก่อนกล่าวว่า วันดังกล่าวตนก็อยู่ที่สะพานมัฆวาน กล้าพูดว่าตนโดนยิง 3 นัด จึงอยากถามว่าทำไมต้องใช้กระสุนจริง
นายอภิสิทธิ์จึงชี้แจงต่อว่า ตอนกลางวันไม่มีการใช้กระสุนจริง ยืนยันว่าไม่มี
จนกระทั่งมีการใช้ระเบิดเอ็ม 79 ยิงมาใส่ทหารบาดเจ็บ จึงมีการตอบโต้ ยังมีคนตายที่สีลม พระราม 4 ตนไม่ทราบว่าใครยิง ชายคนดังกล่าวจึงแย้งว่าในช่วงกลางวันวันที่ 10 เม.ย.53 มีใช้กระสุนจริงแน่นอน แล้วถ้าปฏิเสธว่าไม่ใช่ แล้วทหารลงมือได้อย่างไร อยากถามตรงๆว่าถ้าท่านไม่ได้สั่งแล้วใครสั่ง
นายอภิสิทธิ์ตอบว่า “กำลังตรวจสอบ เหตุการณ์ทั้งหมดวันนี้อย่าไปตัดสินว่าใครถูกหรือผิด ค่อยๆหาความจริง และเมื่อได้ความจริงแล้วค่อยพิจารณาต่อว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ประเทศไทยเราต้องอยู่กันให้ได้อย่างนี้และต้องคุยกันแบบผมกับคุณ และขอขอบคุณที่ฟังผมชี้แจง ไม่โต้เถียงอย่างเดียวเหมือนที่ผ่านๆมา” จากนั้นทั้งสองได้จับมือกันก่อนจะไหว้ลา