อัยการโยน“ป.ป.ช.”เล่นงาน“ปู”เบิกความเท็จ

“รองอัยการสูงสุด” แจงขั้นตอนกฎหมายเชือดเบิกความเท็จ โยน “ป.ป.ช.” เจ้าภาพทำคดี “น้องปู” ช่วย “พี่แม้ว” ซุกหุ้น

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีนายแก้วสรร อติโพธิ อดีต คตส. และเครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษกรรมคอร์รัปชั่นทักษิณ (คนท.) จะยื่นหนังสือให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และอัยการดำเนินคดีกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ที่เบิกความเท็จในคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า โดยปกติคดีใดก็ตามเมื่ออัยการนำพยานเข้าเบิกความ หากพยานเบิกความไม่ตรงหรือแตกต่างไปจากชั้นสอบสวน อัยการจะแจ้งให้พนักงานสอบสวนที่ทำสำนวนทราบเพื่อพิจารณาว่าพฤติการณ์นั้นเป็นการให้การเท็จหรือเบิกความเท็จหรือไม่ อย่างไร จึงไม่ใช่หน้าที่ของอัยการดำเนินการเองในทันที

รองอัยการสูงสุด กล่าวต่อว่า  สำหรับคดียึดทรัพย์เริ่มต้นการสอบสวนจาก คตส. และแม้ คตส. จะพ้นสภาพไปแล้ว
 
แต่ได้โอนหน้าที่และคดีต่าง ๆ ให้ ป.ป.ช. ดำเนินการ ดังนั้น เรื่องนี้ควรเริ่มจาก ป.ป.ช. อย่างไรก็ดีไม่ว่าจะเป็นการเบิกความเท็จในคดียึดทรัพย์ หรือคดีที่เชื่อว่าน่าจะมีการกระทำผิดต่อเนื่องจากคดีที่กล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการ โดยนายแก้วสรรและ นพ.ตุลย์ ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง แต่ถ้าจะยื่นเรื่องให้ดีเอสไอก็เหมือนเป็นการเริ่มเรื่องให้ตรวจสอบว่ามีการทำผิดหรือไม่ ซึ่งต้องไปดูรายละเอียดในคดีอีกครั้งว่าส่วนใดที่ดีเอสไอรับดำเนินการได้ทันทีหรือส่วนใดจะต้องแจ้งหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องร้องทุกข์
 
“หากสุดท้ายจะมีการทำสำนวนส่งมาให้อัยการพิจารณาเพื่อดำเนินการยื่นฟ้องเป็นคดีก็พร้อมทำหน้าที่ แต่วันนี้ยังไม่เห็นรายละเอียดจึงพูดอะไรมากไม่ได้ ” นายวัยวุฒิ ระบุและว่า ส่วนคดีอื่นที่ คตส. ได้ดำเนินการและมีการกล่าวหาคนในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ร่วมกันทุจริตนั้น หลายคดีอยู่ระหว่างการสอบสวนในชั้น ป.ป.ช. และการสอบสวนเพิ่มเติมของคณะทำงานร่วม ป.ป.ช. และอัยการ