บรรยากาศในการปราศรัยใหญ่ของพรรคภูมิใจไทยที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นายคำตา แคนบุญจันทร์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคภูมิใจไทย แกนนำเกษตรกร
ที่เคยมีบทบาทสำคัญในการเรียกร้องเรื่องที่ดินทำกิน กล่าวถึงปัญหาสิทธิที่ทำกินที่มีปัญหามาตลอดว่าได้ส่งผลให้พี่น้องเกษตรกรต้องกลายไปเป็นคนจนเมือง เพราะต้องหาเงินส่งให้ครอบครัว แต่บางครั้งก็มีอุปสรรคมากมายเพราะความจน ความไม่มีเส้น ทำอะไรกินไม่ได้ วันนี้ลูกหลานคนจนตามชุมชนและในเมือง มาขายของอยู่ริมฟุตปาธ เมื่อ 3-4 วันก่อน ก็มีแม่ค้าวิ่งหนีตำรวจเทศกิจถูกรถชนตาย แม่ค้าขายของ ไม่ได้ขายยาบ้า ไม่ได้ขายของผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้นเพียงแค่จัดพื้นที่ให้เขา เทศกิจไม่จับ ไม่ต้องอบรมอาชีพให้เขา ไม่ต้องหาเงินมาให้เขากู้ แค่ให้เขาขายในที่คนขายอยากขาย คนซื้อก็อยากซื้อก็พอ
นายคำตา กล่าวต่อว่า เรื่องของคนจนแก้ง่าย แต่ส่วนใหญ่คนจนถูกหลอก ถูกต้ม ถูกทอดทิ้ง
พี่น้องผมเดินขบวน กินนอนอยู่หน้าทำเนียบหลับอยู่ข้างถนน มานอนอยู่ลำตะคองมารวมอยู่กับพี่น้องต่อสู้กันมาเป็น 10 ปี ถูกหลอกมาตลอด ของง่าย ๆ ของคนจนเป็นเรื่องยากสำหรับนักการเมืองสิ่งที่ผมกลัวที่สุดคือตอนเลือกตั้งเป็นอย่างหนึ่ง หลังเลือกตั้งทิ้งคนจน ลืมคนจนผมกล้าพูดอย่างนี้เพราะผมถูกทิ้ง ถูกลืมมาแล้ว โดยเมื่อปี 2548 ผมเดินจากอุบลราชธานี มีทั้ง “ป้าสะอิ้ง” นางศุภาธินันท์ ไถวสินธ์ ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย นายธนิต สิงห์หล่อ พากันเดินคาราวานคนจนมาเพื่อช่วยคนชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกคนเสื้อเหลืองเดินขบวนไล่ บางส่วนมาจากเชียงราย มาสมทบกันอยู่วังน้อยแล้วก็ไปกินต่อสู้อยู่ที่สวนจตุจักร อยู่ 45 วัน 45 คืน แต่แล้วหนังสือพิมพ์บางฉบับโจมตี ทักษิณ เรายกขบวนไปล้อมปิดสำนักงานฯ
นายคำตายังกล่าวต่ออีกว่า ตนเชื่อว่าทุกคนจำได้ นั่นคือคนจนไปช่วยเศรษฐี คนจนไปช่วยคนมีอำนาจ แล้วเกิดอะไรขึ้น
ตนกับพรรคพวกถูกหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว ฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมายข้อหาบุกรุก ตลอดเวลาที่ดำเนินคดีผมไม่เคยได้เห็นน้ำใจ ความห่วงใยของคนมีเงินและมีอำนาจ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ไม่เคยได้ยินเสียงของคนชื่อ ทักษิณ ชินวัตร มาให้กำลังใจผม พวกผมต้องวิ่งหาหลักประกันไปประกันตัวเอง ได้แต่อาศัยทนายคนจน ว่ากันไปตามสภาพ สู้คดีมาตั้งแต่ปี 49 จนถึงวันนี้ 5 ปี ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือวันนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว คือพิพากษาจำคุกผม 2 ปี นี่คืออุทาหรณ์ว่า คนจนพร้อมช่วยคนรวย แต่ในที่สุดคนจนก็ถูกทิ้ง.